สถานการณ์ในประเทศ

พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวก รวม 4 คน เข้าไปล่าสัตว์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ว่า ขณะนี้สอบปากคำ ไปแล้ว 18 ปาก เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีทั้งหมด เช่น นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดจับกุมฯ นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งทั้งหมด ให้การสอดล้องกัน ว่าได้รับการประสานจาก นายนพดล พฤษะวัน อดีตข้าราชการกรม อุทยานฯ ขอเข้าไปในพื้นที่ โดยใช้รถของนายเปรมชัยขับเข้าไป และไม่เสียค่าธรรมเนียม พร้อมใช้อาวุธปืนนายเปรมชัยเข้าไปล่าสัตว์อย่างผิดกฎหมาย จากคำให้การของพยานทั้งหมด และพยานหลักฐานที่มีขณะนี้ มีน้ำหนักเอาผิดนายเปรมชัย ได้แน่นอน แม้ว่านายเปรมชัยจะให้การปฏิเสธ ขณะนี้เหลือเพียงเจ้าหน้าที่นิติกร กรมอุทยานฯ และนายนพดล ที่ยังไม่เข้าให้ปากคำ โดยเฉพาะนายนพดล ยังไม่สามารถติดต่อได้ โดย วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ จะออกหมายเรียก ส่งไปยังที่อยู่ของนายนพดล ให้มาพบ เพื่อ ให้ปากคำ ในวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ หากไม่มาจะออกหมายเรียกรอบ 2 ก่อนพิจารณา ออกหมายจับ ส่วนวันนี้ ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จะเข้าสอบปากคำ 2 เจ้าหน้าที่ของเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่า ฯ ซึ่งเข้าเวรประจำจุดตรวจรถ ในวันที่นายเปรมชัยและพวก เข้าไปในพื้นที่ ทั้งนี้ คดีของนายเปรมชัย ขณะนี้มี 3 คดี คือ คดีล่าสัตว์ / คดีติดสินบนเจ้าพนักงาน ที่นายวิเชียร ได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. แล้ว และคดีพบงาช้าง 4 กิ่ง ในบ้านพักซอยศูนย์วิจัย 3 เตรียมเรียกนายเปรมชัยมาสอบปากคำถึงการได้มาและครอบครองงาช้าง ว่าถูกต้องหรือไม่ ในวันครบกำหนดฝากขังผัดแรก ด้าน พลตำรวจโทกิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า วันจันทร์นี้ คณะพนักงานสอบสวนจะนัดหารือ เพื่อพิจารณาแนวทางการสอบสวนว่า ยังขาดตกบกพร่อง ในประเด็นใด หรือต้องสอบสวนพยานปากใดเพิ่มเติมอีก ซึ่งได้มอบหมายให้ พลตำรวจตรี กฤษณะ ศิริปิยะวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงาน สอบสวนไปดูแล หรืออาจต้องลงพื้นที่ไปดูสถานที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง หากยังมีประเด็นที่ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนเรื่องพยานหลักฐานในคดีนี้ เนื่องจากมีจำนวนมาก ได้จัดทำ เป็นหมวดหมู่และทยอยส่งกองพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบแล้ว ประมาณ 80-90% ส่วนกรณีกระแสข่าวลือเรื่องนายเปรมชัย กับพวก อาจเดินทางหลบคดีออกช่องทาง ธรรมชาติไปแล้วนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า ได้ประสานให้ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมืองช่วยสังเกตข้อมูลการเดินทางไว้แล้ว แต่ส่วนตัวเชื่อว่านายเปรมชัย กับพวก ยังอยู่ในเมืองไทย เนื่องจากมีกำหนดต้องไปรายงานตัวกับศาลทุกๆ 12 วัน