สถานการณ์ในประเทศ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีมีข้อเสนอให้แบล็กลิสต์ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในการทำสัมปทานกับรัฐ หลังเจ้าหน้าที่ จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะไม่ได้ผิดในนามของบริษัท เป็นการกระทำผิดส่วนบุคคล การให้สัมปทานกับรัฐต้อง ประมูล และในบริษัทก็มีหลายหุ้นส่วน จะเอาผิดทั้งบริษัทไม่ได้ คนอื่นไม่รู้เรื่องด้วย นอกจากว่า มีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่น กรณีนี้อาจเป็นไปได้ว่าบริษัทอิตาเลียนไทย อาจจะปรับ เปลี่ยนผู้บริหารก็ได้ เรื่องนี้ต้องสอบในแง่ของธรรมาภิบาลบริษัทว่ามีอะไรพัวพันกันหรือไม่ แต่เร็วไปที่เราจะพูดว่ามีความพัวพันกันแล้ว ส่วนกรณีต่างประเทศให้ความสนใจเรื่องนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ดีแล้ว เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ถ้าเราอยู่ในประชาคมของโลก และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศว่าด้วยชนิด สัตว์ป่าและพืชป่า หรือ ไซเตส เขาดูแลคุ้มครองสัตว์ป่าอยู่ ดังนั้น เราต้องให้ความสนใจ ว่าคนคนนั้นจะรับผิดอย่างไร จะมีโทษอย่างไร มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ รัฐรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ทั้งนี้ การเข้าป่าล่าสัตว์นั้น ไม่ควรจะมีขึ้นอีกแล้วในยุคที่เป็นบาป ผิดกฎหมาย และยังผิดศีลธรรมด้วย จึงเป็นสิ่งถูกต้องที่ทุกคนจะต้องจับตาดูแล เอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ อย่าไปพูดอะไรที่จะบั่นทอน หรือหาทางจ้องจับผิด ปล่อยให้ความจริง ปรากฏออกมาให้ได้ ส่วนกรณีไซเตสวิพากษ์วิจารณ์ประเทศไทยเรื่องสัตว์ป่าค่อนข้างมาก นายวิษณุ กล่าวว่า เขาจะไม่สามารถวิจารณ์ได้ ถ้าเราเอาจริงเอาจัง และจัดการให้เห็น แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจะประท้วงเรา ต้องดูกันไปก่อน และเราไม่จำเป็นต้องชี้แจง กับไซเตส เพราะเขาไม่ได้ขอให้เราชี้แจง เพียงแต่ต้องดำเนินตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด อย่าให้มีอะไรมาวอกแวก จนกระทั่งเบี่ยงเบนออกไป ยืนยันว่าไม่กระทบอะไรกับรัฐบาล