สถานการณ์ในประเทศ

นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต ส.ส.หลายสมัย มอบอำนาจให้ นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความ ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ , นายภาษิต หรือไก่ อภิญญาวาท และน.ส.พิชญทัฬห์ หรือไบรท์ จันทร์พุฒ ผู้ดำเนินรายการ “ชูวิทย์ มีเรื่องเล่า” สถานีโทรทัศน์ช่อง 33 HD และบริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-4 ต่อศาลอาญารัชดาภิเษก ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 และฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) และอีกสำนวน ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ , น.ส.อรชพร (อะ-ระ-ชะ- พอน) ชลาดล ผู้ดำเนินรายการ “ชูวิทย์ ตีแสกหน้า” สถานีโทรทัศน์ช่องไทยรัฐทีวี และบริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานเดียวกัน กรณีการกล่าวพาดพิงนายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด หรือสิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ามนุษย์ การฟอกเงิน หรือการปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งศาลอาญารับคำฟ้องทั้ง 2 สำนวนไว้ในสารบบคดี โดยนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์คดีแรก วันที่ 4 มิถุนายนนี้ เวลา 09.00 น. ส่วนสำนวนที่ 2 นัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ วันที่ 11 มิถุนายน เวลา 09.00 น. นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความรับมอบอำนาจ เปิดเผยว่า ที่นายยงยุทธ นำคดีมายื่นฟ้องศาล เพื่อปกป้องชื่อเสียง ที่ถูกกล่าวหาจากนายชูวิทย์กับพวก ที่พูดในรายการทั้ง 2 ช่อง ด้วยความเท็จ ทำให้นายยงยุทธเสียหาย เพราะความจริงแล้ว สโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ดนั้น นายมิตติ ติยะไพรัช ลูกชายนายยงยุทธ ร่วมกับเพื่อนก่อตั้งขึ้น เมื่อปี 2552 โดยที่นายยงยุทธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น อีกทั้งไม่เคยร่วมกับบุคคลใดฟอกเงินหรือปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ การฟ้องคดีต่อศาลเพื่อจะพิสูจน์ความจริง ถ้านายชูวิทย์ มีหลักฐานว่านายยงยุทธเกี่ยวข้องกับกระบวนการฟอกเงิน ให้นำหลักฐานมาพิสูจน์กันในศาล นอกจากฟ้องคดีอาญา 2 สำนวนแล้ว ในวันศุกร์นี้ 11.00 น. จะไปยื่นฟ้องคดีแพ่ง จากการถูกละเมิดดังกล่าวอีก 2 สำนวนด้วย โดยจะเรียกค่าเสียหายสำนวนละ 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งนายยงยุทธ บอกว่ายากที่จะไกล่เกลี่ยหรือถอนฟ้อง เพราะความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว จึงต้องการให้เป็นบรรทัดฐาน ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ต้องตรวจสอบให้ถูกต้องและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่ถูกกล่าวถึงด้วย