SMART NEWS

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หวั่นอุปทานล้นตลาดจากการเพิ่มกำลังผลิต OPEC+ 12 ก.ย. 68 13:09 น.

สถานการณ์ต่างประเทศ

"ทรัมป์" แถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรส เรียกร้องความสามัคคีระหว่างสองพรรคใหญ่

views

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ แถลงนโยบายประจำปีต่อที่ประชุมใหญ่สภาคองเกรส เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น สาระสำคัญเริ่มจากการกล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญ ที่เกิดขึ้นกับสหรัฐในรอบระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงภัยธรรมชาติทั้งเฮอริเคนและไฟป่า ทรัมป์กล่าวว่าความรุนแรงของธรรมชาติที่เกิดขึ้น แทบไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ของประเทศที่ "เติบโตอย่างต่อเนื่อง" โดยนับตั้งแต่เขาชนะการเลือกตั้ง เมื่อเดือนพ.ย. 2559 อเมริกาสร้างตำแหน่งงานใหม่มากกว่า 2.4 ล้านอัตรา และบรรดาบริษัทเอกชนพร้อมใจ เพิ่มเพดานค่าตอบแทนขั้นต่ำให้แก่พนักงาน ผู้นำสหรัฐกล่าวต่อว่า เศรษฐกิจของประเทศภายใต้การบริหารของเขา จะช่วยให้ชาวอเมริกัน "มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น" ซึ่งหมายถึงกฎหมายการปฏิรูปภาษีครั้งมโหฬารที่สุดในรอบ กว่า 3 ทศวรรษ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว และทรัมป์ยังใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้ สภาคองเกรสเร่งผ่านกฎหมายพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 47.1 ล้านล้านบาท พร้อมทั้งวิงวอน "ความเป็นเอกภาพ" ระหว่างพรรค เดโมแครต กับพรรครีพับลิกัน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของการปฏิรูปประเทศอย่างก้าวหน้า มั่นคง และเชื่อถือได้ เพื่อผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน ส่วนนโยบายด้านความมั่นคงนั้น ทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลของเขาต้องใช้ "ทุกมาตรการ ที่จำเป็น" ในการจัดการกับกลุ่มก่อการร้าย ทั้งนี้ ก่อนหน้าการขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์ ผู้นำสหรัฐได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐดำเนินการเปิดเรือนจำ ทหารบนอ่าวกวนตานาโมในคิวบาไว้ต่อไป ด้านนโยบายผู้อพยพ ทรัมป์ขอให้ทุกภาคส่วนในสภาคองเกรส "ก้าวผ่านแนวคิดทางการเมือง ที่แตกต่าง" เพื่อปฏิรูปนโยบายดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อ "อุดช่องโหว่" ด้าน นโยบายความมั่นคงภายในของรัฐบาลชุดก่อนหน้า ที่รวมถึงการ "การเปิดพรมแดนต้อนรับ" ผู้อพยพในคราบแก๊งค้ายาเสพติดและองค์กรอาชญากรรม ส่วนนโยบายต่างประเทศ ทรัมป์ยังคงเน้นย้ำ "มาตรการกดดันขั้นสูงสุด" ต่อเกาหลีเหนือ และการประกาศสนับสนุนการลุกฮือของประชาชนในการต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน พร้อมทั้งยืนยัน การรับรองสถานะของกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลแต่เพียงฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่าทรัมป์ไม่ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์กับรัสเซีย กระบวนการสืบสวนสอบสวนของสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ในเรื่องข้อครหาทั้งหลายเกี่ยวกับรัสเซีย และการที่กระทรวงการคลังยืนยันจะยังไม่เพิ่มการคว่ำบาตรรัฐบาลรัสเซีย"ในตอนนี้" ทั้งนี้ ทรัมป์ใช้เวลากล่าวถ้อยแถลงรวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 20 นาที ถือเป็นหนึ่งในการกล่าว สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสหรัฐต่อที่ประชุมใหญ่สภาคองเกรสที่ยาวนานที่สุด โดยผู้นำ สหรัฐที่กล่าวถ้อยแถลงนโยบายยาวนานที่สุด คือประธานาธิบดีบิล คลินตัน เมื่อเดือน ม.ค. 2543 ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกับอีก 28 นาที

TW-headbar