สถานการณ์ต่างประเทศ

นายชาห์ ฮุสเซน มูร์ตาซาวี โฆษกของประธานาธิบดีอัชราฟ กาห์นี แห่งอัฟกานิสถาน แถลงว่า รัฐบาลอัฟกานิสถาน เคยสนับสนุนให้กลุ่มหัวรุนแรงตาลีบันหันหน้ามาเจรจา แต่เหตุโจมตีหลายครั้งในกรุงคาบูล รวมถึงการโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 100 ศพ ถือเป็นการล้ำเส้นและสูญเสียโอกาสที่จะบังเกิดสันติภาพ ดังนั้น จึงต้องมองหาสันติภาพในสนามรบแทน ซึ่งตาลีบันจะไม่มีความสำคัญเหลืออยู่เลย แต่ไม่ยอมแสดงความเห็นถึงถ้อยแถลงของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ปฏิเสธความคิดเจรจากับกลุ่มหัวรุนแรง ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีต่อเนื่อง ขณะที่นายซาบิฮุลลาห์ มูจาฮีด โฆษกของกลุ่มตาลีบันแถลงว่า ตาลีบันไม่เคยต้องการจะเจรจาสันติภาพกับสหรัฐอยู่แล้ว แต่มีเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของตาลีบัน ตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีความพยายามที่จะให้มีการเจรจาเกิดขึ้นให้ได้ วานนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ประณามกลุ่มตาลีบันที่ก่อเหตุนองเลือดในกรุงคาบูล และสหรัฐไม่ได้เตรียมการที่จะเจรจากับตาลีบันในขณะนี้ พร้อมให้คำมั่นว่าจะจัดการในสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จสิ้น ถ้อยแถลงดังกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ แสดงว่าเขามองเห็นชัยชนะทางทหารเหนือกลุ่มตาลีบัน แต่เจ้าหน้าที่ทางการทูตและกองทัพของสหรัฐ มองว่า ไม่มีทางสำเร็จ ตราบเท่าที่ยังใช้ทรัพยากรและกำลังทหารเพียงเท่านี้