สถานการณ์ในประเทศ

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนว่า รัฐบาลตั้งใจว่า ปี 2561 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงประเทศในทุกด้าน ทั้งการทำงานของหน่วยราชการ เศรษฐกิจการค้าการลงทุน และการช่วยเหลือประชาชนในระดับฐานราก โดยนายกฯ เน้นย้ำว่า การพัฒนาความเจริญในทุกจังหวัดทั่วประเทศจะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกส่วนตั้งแต่ระดับประเทศ จังหวัด อำเภอ จนถึงตำบล เพื่อลงไปขับเคลื่อนกับประชาชน โดยแต่ละจังหวัดต้องไปพิจารณาว่า ศักยภาพที่เป็นจุดแข็งและปัญหาอุปสรรคของตนเองคืออะไร และจะต้องนำสิ่งใดไปต่อยอดหรือปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า โครงสร้างการทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการอำนวยการระดับชาติที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นเลขานุการ 2.คณะกรรมการขับเคลื่อนระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน 3.คณะกรรมการขับเคลื่อนระดับอำเภอ มีนายอำเภอเป็นประธาน 4.ทีมขับเคลื่อนการพัฒนาระดับตำบล มีข้าราชการและหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ปราชญ์ชาวบ้าน และจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ เป็นคณะทำงาน และ 5.คณะกรรมการขับเคลื่อนระดับกรุงเทพมหานคร เขต และชุมชน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด เปิดเผยอีกว่า นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาและอุปสรรคที่กรรมการทุกระดับจะลงไปแก้ไขนั้นครอบคลุมทุกมิติ เช่น ปัญหาปากท้อง การเกษตร ระบบชลประทาน ถนน ไฟฟ้า ประปา ฯลฯ โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ เมื่อแต่ละจังหวัดรู้ว่าตนเองมีศักยภาพหรือปัญหาเรื่องใดแล้ว รัฐบาลจะส่งทีมงานลงไปเพื่อทำงานร่วมกับกรรมการระดับต่างๆ เพื่อร่วมกันวางแผนพัฒนาแก้ไขปัญหา จัดสรรงบประมาณตามความจำเป็น เพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ทั้งนี้ การขับเคลื่อนของแต่ละจังหวัดจะสอดคล้องกับการลงพื้นที่ของนายกฯ เพื่อให้เห็นปัญหาที่แท้จริง และเก็บรวบรวมข้อมูลไปพัฒนาอย่างตรงจุด เช่น ที่ผ่านมา คือ จ.กาฬสินธุ์ และแม่ฮ่องสอน จะเน้นการทำงานแบบประชารัฐ ที่ภาครัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย และประชาชน เข้ามาร่วมกัน ซึ่งคณะทำงานในพื้นที่มีถึง 7,463 ทีม จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาที่ตอบโจทย์ของพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน