สถานการณ์ในประเทศ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หรือ พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และมีมติเสียงข้างมากให้ลดกลุ่มอาชีพจาก 20 กลุ่ม เหลือ 10 กลุ่ม ว่า เป็นเรื่องที่ให้ความเห็นได้ยาก เนื่องจากตั้งแต่ที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ยกร่างมา ก็มีความสับสนอยู่แล้ว ทั้งระบบการเลือกจากพื้นที่มาสู่ประเทศ รวมถึงระบบการเลือกไขว้ ระหว่างกลุ่ม จึงเป็นเรื่องยากที่จะออกแบบให้ลงตัว ส่วนกรณี สนช.มีมติเสียงข้างมาก ให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการ เลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร ออกไป 90 วัน หลังประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนย้ำมาตลอดว่า หากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ต้องการจะเลื่อน การเลือกตั้ง ก็ควรจะชี้แจงกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อ ความเชื่อมั่นของรัฐบาล และคสช. ส่วนกรณีที่รัฐบาลคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่อธิบายได้ยาก เพราะอาจจะเกิดเร็วกว่านั้นก็ได้ แต่หาก คสช.ยังไม่พร้อมจัดการเลือกตั้ง ก็ควรอธิบายกับสังคมว่าทิศทางต่อจากนี้คืออะไร เพราะ ประชาชนยังรอคอยการเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกแปลกใจที่ คสช.ยืนยันมาตลอดว่า ไม่เคยก้าวล่วงการพิจารณากฎหมายของ สนช. แต่กลับออกคำสั่งตามมาตรา 44 แก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีการรับใบสั่งหรือไม่ แต่หาก คสช. ต้องการให้กฎหมายออกมาที่ทางใด ก็สามารถดำเนินการได้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีภาคสังคมเริ่มออกมากดดัน คสช.มากขึ้น ว่า จะมีแรงกดดัน ต่อโรดแมปของ คสช.มากขึ้นทั้งในประเทศที่จะมีมาหลายรูปแบบ และจากต่างประเทศ ที่เริ่มไม่สบายใจด้วย