สถานการณ์ต่างประเทศ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวนอกรอบการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก "เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม" หรือ ดับเบิลยูอีเอฟ ที่เมืองดาวอส ของสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดี ว่า จริงอยู่ ที่ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ ทีพีพี เป็นความร่วมมือ ทางการค้าระดับพหุภาคีที่ "เลวร้ายตั้งแต่ต้น" อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับปรุงสาระสำคัญ ของข้อตกลงให้ดีขึ้น เขาก็ "เปิดกว้างเพียงพอ" ที่จะให้สหรัฐกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของทีพีพี อีกครั้ง ทั้งนี้ เสถียรภาพของข้อตกลงทีพีพี ที่มีการลงนามเมื่อปี 2558 สั่นคลอนอย่างหนักเมื่อทรัมป์ นำสหรัฐถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก เพียงไม่กี่วันหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี อย่างเป็นทางการ เมื่อปลายเดือนม.ค. ปีที่แล้ว ส่งผลให้เหลือสมาชิก 11 ประเทศ ได้แก่ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น แคนาดา มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม บรูไน ออสเตรเลีย ชิลี เปรู และ เม็กซิโก ซึ่งสามารถร่วมกันบรรลุข้อตกลงได้ในที่สุด ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม ประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก ที่เมืองดานังของเวียดนาม เมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ว่า สมาชิกทีพีพีที่เหลืออยู่จะเดินหน้าต่อไปภายใต้ชื่อใหม่ คือ "ข้อตกลงครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนการค้าทรานส์-แปซิฟิก" หรือ "ซีพีทีพีพี" ด้านนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดา ซึ่งเข้าร่วมการประชุมดาวอส กล่าวว่า แคนาดาซึ่งเป็นประเทศที่มีความเข้าใจต่อความสำคัญของการค้าระหว่างประเทศ จะร่วมลงนามในซีพีทีพีพี และจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการเจรจาความ ตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟตา เพื่อผลประโยชน์ร่วมกับทั้งสหรัฐและเม็กซิโก หลังทรัมป์เตือนว่าสหรัฐอาจถอนตัวจากข้อตกลงไตรภาคีฉบับนี้ ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2537