สถานการณ์ต่างประเทศ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส หรือ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 2 เซนต์ ปิดที่ 63.95 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 69.31 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดปรับตัวลง หลังจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศ ด้านพลังงานสหรัฐ หรือ EIA ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 258,000 บาร์เรล แตะระดับ 9.75 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งใกล้เคียงกับระดับสูงสุดเป็น ประวัติการณ์ที่ระดับ 9.789 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงาน ของ EIA ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 6.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 412.7 ล้านบาร์เรล ส่วนสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา หรือ API ระบุก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล ทางด้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก ออกรายงานประจำเดือน ม.ค. ระบุว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกได้เพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค. และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก ในปีนี้ อันเนื่องจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มประเทศนอกโอเปก รายงานดังกล่าวคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศนอกโอเปกจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.15 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ สู่ระดับ 58.94 ล้านบาร์เรล/วัน โดยประเทศในกลุ่มนอกโอเปก ที่ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ได้แก่ สหรัฐ แคนาดา เม็กซิโก สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก อินโดนีเซีย บราซิล และลาตินอเมริกา รายงานของโอเปกยังระบุว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 0.40 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ธ.ค.สู่ระดับ 97.49 ล้านบาร์เรล/วัน