สถานการณ์ในประเทศ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสำนักเลขาธิการ คสช.ที่มี พล.อ.สสิน ทองภักดี รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองเลขาธิการ คสช.เป็นประธานประชุม ให้ความสำคัญการทำงานของ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ในระดับพื้นที่ เพื่อคลี่คลายปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลและสร้างความเข้าใจในทุกความเดือดร้อน เป็นไปตามกลไกและมาตรการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมามี บางประเด็นที่อาจถูกนำไปทำให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความสับสน ซึ่ง กกล.รส.และส่วนราชการที่รับผิดชอบต้องเร่งชี้แจงให้เกิดความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง รวมถึงสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าถึงกิจกรรมหรือโครงการของภาครัฐที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมามีการเสนอใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหา ทั้งในส่วนของภาครัฐและภาพรวมของประเทศ ขอย้ำเจตนาของ คสช.ว่าใช้ ม.44 เท่าที่จำเป็น เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ การบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการปฏิรูป บริหารทรัพยากรธรรมชาติเพื่อส่วนรวม ยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จึงขอให้ทุกส่วนงานชี้แจงทำความเข้าใจเจตนารมณ์ดังกล่าวให้สังคมรับทราบอย่างต่อเนื่อง รองโฆษก คสช. กล่าวถึงความเดือดร้อนของประชาชน ที่ประสบภัยหนาวว่า รองเลขาธิการ คสช.ย้ำให้ กกล.รส.ประสานกับป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประจำพื้นที่เร่งช่วยเหลือ แจกจ่ายเครื่องกันหนาวให้ประชาชนให้ทั่วถึง ไม่ซ้ำซ้อน ส่วนงานที่ กกล.รส.ต้องสนับสนุนรัฐบาลยังมีอีกหลายเรื่อง อาทิ เรื่องการขุดลอกคลองและปรับปรุงแหล่งน้ำ 2 โครงการใหญ่ในพื้นที่ 37 จังหวัด การตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมและรถบรรทุกที่บรรทุกเกินที่กฎหมายกำหนด การสนับสนุนองค์การคลังสินค้าและองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร การตรวจสอบและขนย้ายข้าวสารเข้าสู่อุตสาหกรรม ไม่ใช่การบริโภคของคน การกำจัดผักตบชวาในแหล่งชุมชนทั่วประเทศ รวมถึงกิจกรรมโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” รองเลขาธิการคสช.ย้ำให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดูแลความสงบเรียบร้อย สกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายและสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ทั้งนี้ กกล.รส.จะดำเนินตามนโยบายของคสช.ในการเป็นที่พึ่ง ร่วมแก้ไขและคลี่คลายทุกความเดือดร้อนของประชาชนให้หมดไปโดยเร็ว