สถานการณ์ในประเทศ

ความคืบหน้า กรณี น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชน ถูกคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่ง รวม 9 บัญชี กระทั่งต้องตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ถูกคุมขัง 3 วัน กว่าได้รับการประกันตัว ต่อมา ตำรวจกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จับกุม น.ส.ปวีณา สิงหวิบูลย์ อายุ 31 ปี หญิงสาวที่นำบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีธนาคารได้ ล่าสุด พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก เปิดเผยว่า คดีใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว คาดว่าภายในเดือน ก.พ.นี้ จะรวบรวมทั้งพยานหลักฐานและพยานบุคคล ส่งให้อัยการพิจารณาว่าจะดำเนินการสั่งฟ้องหรือไม่ สำหรับผู้ต้องสงสัยอีก 2 คนที่มีผู้เสียหาย คือ นางกาสิณี ยะเมา โอนเงินเข้าบัญชี นายขวัญ ทองน้อย ชาวลพบุรี 5 ครั้ง เป็นเงิน 4 แสนบาท และ นายธีรภัทร์นนท์ งามวงษ์ ชาวหนองคาย 2 ครั้ง เป็นเงิน 6.3 แสนบาท ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว แต่ทั้งสองยังไม่เข้ามาพบตำรวจ จึงเตรียมออกหมายเรียกรอบ 2 ถ้ายังไม่มาอีก จะดำเนินการขอหมายจับทันที ด้าน น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ บอกว่า ดีใจมากที่จับตัวคนนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีได้จะทำให้ทั้งพยานหลักฐานและพยานบุคคลครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ความจริงจะได้ปรากฏว่า ตนเองไม่ใช่ผู้ต้องหา แต่เป็นเหยื่อขบวนการหลอกลวงข้ามชาติ ส่วนข้อสงสัยที่กลุ่มคนร้ายสามารถติดต่อตนเองได้ ไม่เป็นความจริง เพราะไม่รู้จักกลุ่มคนร้าย และมีโทรศัพท์หมายเลขเดียว ที่ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ สำหรับอีก 4 หมายเลข คนร้ายนำบัตรประชาชนที่ขโมยไปเปิดหมายเลขใหม่ แล้วใช้หลอกลวงเหยื่อ หลังจากทราบเรื่อง ได้เดินทางไปยกเลิกเบอร์แล้ว โดยมีหลักฐานแจ้งบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อ 16 ธ.ค. น.ส.ณิชา ยังขอบคุณ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และชุดสืบสวนทุกหน่วย ผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองปราบปราม รวมทั้งธนาคารทุกแห่ง ที่ให้ความร่วมมือมอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ จนสามารถจับกุมคนร้ายได้รวดเร็ว รูป - nation photo