สถานการณ์ในประเทศ

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. และโฆษก ตร. เปิดเผยว่า วานนี้ ได้ประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ กับศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดตาก เพื่อคลี่คลายคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กรณีน.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ร้องขอความเป็นธรรมต่อ บก.ป. ถูกคนร้ายนำบัตรประจำตัวประชาชนที่ทำหาย ไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อใช้ในการโอนเงิน จนนำไปสู่การออกหมายจับและดำเนินคดี จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงปลายปีแล้ว ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ อ้างว่าชื่อ นายราลี่ สมิธ ชาวอังกฤษ ติดต่อนางกาสิณี ยะเมา ทางเฟซบุ๊ก อ้างว่าต้องการซื้อที่ดินใน จ.ตาก ขอให้นางกาสิณี เป็นนายหน้าซื้อที่ดิน โดยนายราลี่ จะส่งเงิน 30 ล้านบาท จากอังกฤษทางพัสดุไปรษณีย์มาให้ผู้เสียหาย แต่มีค่าธรรมเนียม 1 ล้าน 3 แสนบาท ที่ผู้เสียหายต้องจ่ายล่วงหน้าก่อน จากนั้น ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ โทรหานางกาสิณี แจ้งถึงค่าธรรมเนียม ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงิน 1 ล้าน 3 แสน 70,000 บาท เข้าบัญชีธนาคาร 3 แห่ง คือ บัญชีของ น.ส.ณิชา 5 ครั้ง และของอีก 2 บุคคล แต่เมื่อติดกลับไป ก็ไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง จึงไปแจ้งความดำเนินคดี น.ส.ณิชา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา กล่าวต่อว่า ผบก.ภ.จว.ตาก ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ เนื่องจาก น.ส.ณิชา ซึ่งอยู่ในฐานะผู้ต้องหาเปิดบัญชี เป็นผู้เสียหายแจ้งความถูกนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร จึงต้องบูรณาการการสอบสวน โดยให้ สภ.บ้านตาก ท้องที่ ทำสำนวนคดี และขยายผลไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จ.ตาก สำหรับกองปราบปราม ขยายผลในจังหวัดอื่น เพราะยังมีการเปิดบัญชีรับโอนเงินจากผู้เสียหายอีก 2 บัญชี คือ บัญชีชื่อนายขวัญ ทองน้อย สาขาบิ๊กซีติวานนท์ รับโอนเงินจากผู้เสียหาย 5 ครั้ง รวม 4 แสนบาท และบัญชีชื่อนายธีรภัทร์นนท์ งามวงษ์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน รับโอนเงิน 2 ครั้ง รวม 630,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่าบุคคลทั้งสอง และอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ถ้าไม่เกี่ยวข้อง ขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการไปพบตำรวจ