
คุก 27 ปี อดีต ปธน.บราซิล คดีวางแผนรัฐประหาร
12 กันยายน 2568 12:09 น.
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หวั่นอุปทานล้นตลาดจากการเพิ่มกำลังผลิต OPEC+ 12 ก.ย. 68 13:09 น.
12 กันยายน 2568 12:09 น.
12 กันยายน 2568 12:09 น.
12 กันยายน 2568 12:09 น.
9 กันยายน 2568 13:09 น.
สำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเกาหลีเหนือ เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือว่า ความหวาดกลัวจนถึงขั้นคลุ้มคลั่งของสหรัฐ ที่มีต่อโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ คือ เหตุผลของการผลักดัน ให้มีการเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือจนถึงขีดสุด โดยครั้งนี้ถือเป็นการปิดล้อมโอกาสทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือในทุกช่องทาง เกาหลีเหนือไม่มีทางยอมรับมาตรการดังกล่าว ที่เป็นการล่วงละเมิดและคุกคามอธิปไตยอย่างชัดเจน มาตรการคว่ำบาตรตามแนวคิดของสหรัฐในครั้งนี้ เป็นการทำลายสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งมีแต่จะยิ่งผลักดันให้รัฐบาลเปียงยางต้องเดินหน้าโครงการพัฒนาอาวุธของตัวเองต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อคุ้มกันตัวเองจากการข่มขู่กรรโชกลักษณะนี้ ซึ่งประเทศใดก็ตามที่มีส่วนสนับสนุนมติคว่ำบาตรในครั้งนี้ จะต้องรับผิดชอบอย่างถึงที่สุดต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ทั้ง 15 ประเทศ มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุม เมื่อวันศุกร์ ในการออกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งใหม่ เพื่อตอบโต้ที่ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป(ไอซีบีเอ็ม) "ฮวาซอง-15" เมื่อ 28 พ.ย. โดยจำกัดให้เกาหลีเหนือซื้อผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและน้ำมันดิบ ลดลงเกือบ 90% จากโควต้าในปัจจุบัน ขณะเดียวกันแรงงานชาวเกาหลีเหนือต้องกลับภูมิลำเนาภายในสิ้นปี 2562 และการห้ามเกาหลีเหนือส่งออกเครื่องจักรกลและชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ร่างมติถูกแก้ไขใน 2 จุดสำคัญ ในนาทีสุดท้าย ตามความต้องการของจีน คือการขยายระยะเวลาผ่อนผัน การเดินทางกลับประเทศของแรงงานชาวเกาหลีเหนือให้นานขึ้น จากเดิมที่สหรัฐกำหนดไว้เพียงภายใน 12 เดือน รวมถึงการลดรายชื่อบุคคลและนิติบุคคลสัญชาติเกาหลีเหนือ ในบัญชีดำคว่ำบาตรจาก 19 รายชื่อ ให้เหลือ 15 รายชื่อ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่า 4 รายชื่อที่สหรัฐยอมนำออกนั้น เป็นใครหรือองค์กรใดบ้าง