สถานการณ์ในประเทศ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ความเห็นอีกครั้ง ถึงการเตรียมใช้มาตรา 44 ปลดล็อคพรรคการเมือง เป็นบางส่วนว่า กกต.ไม่มีปัญหา จะขยายหรือไม่ขยาย ทำตามได้ทั้งหมด แต่ปัญหาอยู่ที่พรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ เพราะไม่รู้ว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะผ่อนคลายให้พรรคได้ทำกิจกรรมเมื่อใด ต้องวางตารางกันให้ดี ถ้าเป็นไปได้อยากให้ผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง หารือกันอย่างรอบครอบ เนื่องจากตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดสิ่งที่ต้องดำเนินการไว้มาก จึงต้องนำข้อเท็จจริงมาดูกัน ทั้งความเห็นของพรรคการเมืองเก่าและใหม่ อย่าไปคิดเองว่าทำทัน เพราะบางพรรคแม้เป็นพรรคเก่า แต่ไม่เข้มแข็ง อาจทำไม่ทันได้ จะกลายเป็นเรื่องของความได้เปรียบเสียเปรียบ จึงควรต้องพิจารณาให้ดี เพื่อที่ออกมาแล้วจะได้ไม่เป็นปัญหา อย่างตัวเลขบางตัว ไม่แน่ใจว่าผู้มีอำนาจจะรู้หรือไม่ เช่น การขอตั้งพรรคใหม่ กกต.ต้องใช้เวลาตรวจสอบไปยังถึง 40 หน่วยงาน จึงขอเวลา 45 วัน ถ้าได้พูดคุยกันว่า ระยะเวลาดังกล่าว สามารถย่นย่อได้เพียงใด จะเป็นประโยชน์ ถ้าจะเชิญ กกต.ไปให้ข้อมูล ก็พร้อม นายสมชัย เชื่อว่า การปลดล็อคบางส่วนไม่ได้ทำให้พรรคการเมืองที่จะตั้งใหม่ได้เปรียบ เพราะถึงอย่างไรก็ทำได้เพียงเรื่องการเตรียมการไว้ เมื่อมีการปลดล็อคทั้งหมด จะถือว่าทุกพรรคการเมือง ทั้งเก่าและใหม่เริ่มสตาร์ทพร้อมกัน พรรคใหม่ยังมีขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการ เรื่องการจดแจ้งจัดตั้ง การประชุมต่าง ๆ ที่ย่อมเสียเปรียบกว่าพรรคเก่า ยกว้น คสช.จะให้พรรคใหม่จดทะเบียนจัดตั้งพรรคได้ตั้งแต่ขณะนี้เลย ก็จะไม่เสียเปรียบพรรคเก่า ทั้งนี้ คงทำให้ทุกพรรคเท่ากันไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่ดีที่ คสช.พยายามจะทำให้เท่าเทียมกัน แต่ต้องคิดให้รอบคอบว่าใช้ ม.44 แก้ปัญหาแล้ว จะทำได้ทันจริง ๆ แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่าถึงอย่างไรพรรคเก่าก็จะทำทันตามกฎหมายกำหนด