สถานการณ์ในประเทศ

นายธวัชชัย เหมะรัชตะ อายุ 69 ปี ผู้ประกันตน 1 ใน 4 ราย ที่ถูกพนักงานราชการ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ยักยอกเงินออมชราภาพ นำหลักฐานใบแจ้งความของ สน.ดินแดง มอบให้ นางเซี่ยมกี่ นิลทองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคม กรุงเทพฯ พื้นที่ 3 เขตดินแดง ซึ่งตั้งอยู่ในกระทรวงแรงงาน เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการเอาผิดพนักงานที่ทุจริต นายธวัชชัย กล่าวว่า สปส.แจ้งให้มารับเงินคืน และแนะนำให้ไปแจ้งความเป็นหลักฐาน จึงไปแจ้งที่ สน.ดินแดง ว่าไม่ได้รับธนาณัติที่ สปส.ส่งให้ เนื่องจากมีคน สปส. นำธนาณัติ ไปขึ้นเงินแทน ตนเองทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านงานก่อสร้าง ส่งเงินสมทบประกันสังคม มาตรา 40 มาตั้งแต่ปี 2557 จ่ายเดือนละ 100 บาท รัฐบาลสมทบให้อีก 100 บาท โดยจ่ายเงินสมทบไป 4,100 บาท ได้สมทบจากรัฐมาเท่าตัว รวมดอกเบี้ยเงินปันผลเป็นเงิน 8,635 บาท หลังจาก สปส. ออกประกาศให้โอนไปกองทุนอื่น หรือจะถอนเงินออมคืนก็ได้ จึงได้ยื่นถอนคืน เมื่อเดือนมี.ค.2559 แต่รอจนเกิน 90 วันยังไม่ได้รับอะไรเลย เมื่อสอบถามมาทางพนักงาน สปส. ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ถูกให้ไล่ออก อ้างว่าธนาณัติส่งไปผิดที่ ต้องตีกลับและใช้เวลานาน จึงหลงเชื่อรอมาเกือบปี จนรู้ว่าโดนหลอก เมื่อมาสอบถาม สปส.ก็บอกว่ามีการเบิกเงินไปแล้ว และแนะนำให้แจ้งความ วันนี้ ผอ.สปส.ดินแดง มอบเงินออมคืนให้ทั้งหมด เงินอาจไม่มาก แต่ทำให้กระทบความเชื่อถือของ สปส. ด้านนางเซี่ยมกี่ ผอ.สปส.พื้นที่ 3 เขตดินแดง ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่พนักงาน สปส.อมเงินออมคนชรา สืบพบมานานแล้ว เจ้าตัวก็ยอมรับว่าทำมา 4 ราย รายละ 7-9 พันบาท ได้เงินไปกว่า 3 หมื่นบาท โดยไปขึ้นธนาณัติที่ไปรษณีย์ดินแดง และเลือกขึ้นกับคนที่คุ้นเคยกัน ทั้งที่การขึ้นธนาณัติแทนคนอื่น ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ มีสำเนาบัตรประชาชน สอบถามไปทางไปรษณีย์ ก็ยืนยันว่าต้องมีหลักฐานถึงจะทำได้ หลังทราบเรื่องได้มอบอำนาจให้ตัวแทนไปแจ้งความ สน.ดินแดง เมื่อ 23 พ.ย.2559 แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง บอกว่าไม่ใช้ผู้เสียหาย จนมาตกเป็นข่าว ตำรวจจึงรับแจ้ง เมื่อ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา