หาดใหญ่ เช้านี้วิกฤตหนัก มวลน้ำก้อนใหญ่ทะลักระลอกสอง
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
ราคาทองวันนี้ (24 พ.ย. 68) ปรับลง 150 บาท รูปพรรณบาทละ 63,100 บาท 24 พ.ย. 68 09:11 น.
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
21 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการระบบ Police Ticket Management หรือ PTM กล่าวว่า วันนี้ (17 ธ.ค.) จะเป็น วันแรกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเริ่มใช้ใบสั่งรูปแบบใหม่ โดยได้ส่งใบสั่งรูปแบบใหม่ ไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัดแล้ว และในวันนี้ หากผู้ขับขี่ถูกจับปรับในฐานกระทำความผิดกฎหมายจราจร จะได้รับใบสั่งใหม่ทันที โดยรูปแบบใบสั่งใหม่นั้น จะมี บาร์โค้ดบนใบสั่ง พร้อมทั้งช่องให้ตำรวจราจรขีดในช่องข้อหา โดยไม่ต้องใช้ระบบการเขียน ด้วยลายมือเหมือนที่ผ่านมา และในข้อหารายละเอียดต่างๆ จะมีภาษาอังกฤษกำกับด้วย หลังจากประชาชนได้รับใบสั่งแล้ว สามารถไปชำระค่าปรับที่ธนาคารกรุงไทย ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงไทย หรือ ระบบแอพพลิเคชั่น KTB net bank บนมือถือ หรือสถานที่ ที่มีสัญลักษณ์ PTM แสดงอยู่ โดยประชาชนสามารถจ่ายค่าปรับผ่านทางธนาคารได้ ภายหลัง 2 วันทำการ หรือ ภายหลังจากที่ถูกจับปรับ 2 วัน เนื่องจากตำรวจราจร จะต้องนำข้อมูลมาบันทึกลงระบบ PTM ก่อน ซึ่งประชาชนไม่ต้องกังวลว่าจะเลยเวลา ชำระค่าปรับ เพราะใบสั่งจะมีอายุ 7 วัน หากประชาชนมีความประสงค์จะจ่ายเงินค่าปรับที่สถานีตำรวจ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบ 2 วัน ซึ่งในการชำระค่าปรับนั้น ประชาชนสามารถชำระค่าปรับได้ทุกพื้นที่ ทั่วประเทศไทย แต่กรณีการชำระค่าปรับผ่านทางธนาคารนั้น หากถูกยึดใบขับขี่ จะไม่สามารถ ทำได้ และการชำระค่าปรับผ่านทางธนาคาร จะมีค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อบิล พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นในระยะแรกที่เริ่มใช้ระบบ อาจจะยังมีข้อบกพร่องบ้าง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพยายามพัฒนาระบบให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เพื่ออำนวย ความสะดวกให้แก่ประชาชน รวมทั้งในอนาคตจะมีการเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลกับกรมการ ขนส่งทางบกเพื่อทำการอายัดการชำระภาษีชั่วคราว ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มาชำระค่าปรับ ในระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งกรณีการใช้มาตรการตัดแต้มใบขับขี่