สถานการณ์ในประเทศ

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าสร้างความเข้มแข็ง และเสริมศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย โดยตั้งศูนย์ติดตามสินเชื่อ “เคลียร์ คัท ชัดเจน” ผ่านสายด่วน 1357 เพื่อตอบทุกคำถามที่เกี่ยวกับโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาลแก่ผู้ประกอบการ ที่ผ่านมา รัฐบาลมีมาตรการเสริมศักยภาพให้ SMEs โดยเฉพาะด้านการเงินหลายโครงการ เช่น กองทุนพัฒนา SMEs ตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท กองทุนฟื้นฟู SMEs วงเงิน 2,000 ล้านบาท แต่ผู้ประกอบการอาจไม่เข้าใจรายละเอียดหรือเงื่อนไข จึงเปิดสายด่วนดังกล่าวขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวก โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งแก่ SMEs เนื่องจากมีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 99 ของวิสาหกิจทั้งหมด และเป็นแหล่งจ้างงานกว่าร้อยละ 80 ของตลาดแรงงานในประเทศ จึงถือเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจ หาก SMEs ไทยมีความแข็งแกร่ง จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม นายกฯ จึงย้ำว่า รัฐบาลพยายามปรับปรุงกฎหมาย และออกมาตรการทางการเงินและภาษี เพื่อสนับสนุน SMEs อย่างต่อเนื่อง เช่น ให้บริษัทขนาดเล็กสามารถระดมทุนได้ง่ายขึ้น ให้ SMEs นำค่าใช้จ่ายจากการทำวิจัยพัฒนาไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 3 เท่าของที่จ่ายจริง ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล อยากให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ และนำนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ไปพัฒนากิจการของตนจนเป็น Smart Enterprise เพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการอย่างก้าวกระโดด เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก