สถานการณ์ต่างประเทศ

นางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรี ความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งจัดประชุมฉุกเฉิน ว่า การที่ขีปนาวุธข้ามทวีป ติดหัวรบ นิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ มีพิสัยครอบคลุมทั่วแผ่นดินสหรัฐ ถือเป็นการผลักดันให้สหรัฐ เข้าใกล้ สงครามกับอีกฝ่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าสหรัฐไม่เคยต้องการทำสงคราม กับเกาหลีเหนือ แต่หากสถานการณ์จำเป็น ถือว่าเป็นผลจากความก้าวร้าวของเกาหลีเหนือ พร้อมเตือนด้วยว่า สงครามที่เกิดขึ้น จะนำไปสู่การล่มสลายของเกาหลีเหนือ ขณะเดียวกัน นางเฮลีย์ เรียกร้องให้ประชาคมโลก ยุติความสัมพันธ์ทั้งทางการทูตและการค้า กับเกาหลีเหนือ ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โทรศัพท์สายตรงถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่าสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี มาถึงจุดที่รัฐบาลจีน ต้องยุติการส่งออกน้ำมันดิบและ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมไปยังเกาหลีเหนือ อย่างเด็ดขาด ด้านฝรั่งเศส เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ ส่วนรัสเซียและจีนซึ่งเป็น 2 ใน 5 ประเทศ สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประณามการยิงขีปนาวุธของ เกาหลีเหนือ แต่ยังคงยืนยันแนวคิด ให้สหรัฐและเกาหลีใต้ ยุติการซ้อมรบ เพื่อให้เกาหลีเหนือ ยุติโครงการนิวเคลียร์ ขณะที่ หนังสือพิมพ์โรดอง-ซินมุน กระบอกเสียงของพรรคกรรมกรเกาหลีเหนือ เผยแพร่ภาพ การทดสอบขีปนาวุธ "ฮวาซอง-15" ที่แตกต่างจากรุ่นฮวาซอง-14 ซึ่งเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป เหมือนกัน แต่ฮวาซอง-15 มีลักษณะเป็นทรงกระบอกและส่วนปลายค่อนข้างทื่อ แต่ฮวาซอง-14 ส่วนปลายแหลมกว่า