
คุก 27 ปี อดีต ปธน.บราซิล คดีวางแผนรัฐประหาร
12 กันยายน 2568 12:09 น.
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หวั่นอุปทานล้นตลาดจากการเพิ่มกำลังผลิต OPEC+ 12 ก.ย. 68 13:09 น.
12 กันยายน 2568 12:09 น.
12 กันยายน 2568 12:09 น.
12 กันยายน 2568 12:09 น.
9 กันยายน 2568 13:09 น.
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประทานพระดำรัสต่อแขกผู้มีเกียรติ ภายในศูนย์ การประชุมแห่งชาติของเมียนมา ที่กรุงเนปิดอว์ เมื่อวาน ที่มีนางออง ซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา นั่งอยู่บนเวทีด้วย โดยพระองค์ ทรงมีรับสั่งตอนหนึ่งว่า กระบวนการในการสร้างสันติภาพ และความปรองดอง แห่งชาติ จะมีความคืบหน้าได้ ก็ต่อเมื่อรัฐบาลดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม และ เคารพต่อสิทธิมนุษยชน ขณะที่ความแตกต่างกันทางศาสนา ไม่ควรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด ความแตกแยก และไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน แต่ควรมีการให้อภัย ผ่อนปรน และเป็นเอกภาพ พร้อมทั้งทรงเรียกร้องความเป็นเอกภาพและการเคารพซึ่งอัตลักษณ์ของกันและกัน ระหว่าง กลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมา อย่างไรก็ตาม การประทานพระดำรัสของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่กรุงเนปิดอว์ พระองค์ไม่ได้ทรงใช้ทั้งคำว่า “ชาวโรฮิงญา” และ “ชาวเบงกาลี” เนื่องจากถือเป็นเรื่อง ละเอียดอ่อน ขณะที่รัฐบาลเมียนมา ไม่ให้การยอมรับชาวโรฮิงญาว่าเป็นพลเมืองในประเทศ และปฏิเสธที่จะเรียกชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ ว่าเป็นชาวโรฮิงญา ขณะที่ นางซูจี กล่าวสุนทรพจน์ว่า สิ่งท้าทายต่างๆ ที่รัฐบาลเผชิญอยู่ สถานการณ์ในรัฐยะไข่ ถูกประชาคมโลก จับตามากที่สุด โดยรัฐบาลเข้าแก้ไขปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่เรื้อรังมานาน พบว่าชุมชนต่างๆในรัฐยะไข่ ประสบปัญหาการขาดความไว้วางใจ และ ความเข้าใจซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม นางซูจี ไม่ได้ระบุถึงชาวโรฮิงญาจำนวนกว่า 6 แสนคนที่ได้อพยพลี้ภัยไปยัง ประเทศบังกลาเทศ นับตั้งแต่ที่ถูกทหารเมียนมา บุกเข้ากวาดล้างในรัฐยะไข่