สถานการณ์ในประเทศ

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) ให้ความเห็นกรณีฝ่ายการเมืองระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แสดงท่าทีไม่เดินตามโรดแม็พ ให้เลือกตั้งปลายปี 2561 ว่า เท่าที่ดูก็เห็นว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแม็พ ขณะนี้กฎหมายลูกอีก 2 ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญหรือ พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งนั้น คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. จะส่งมาให้ สนช.ได้ ในวันที่ 21 พ.ย. และ 28 พ.ย. ตามลำดับ ซึ่ง สนช.มีเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน หรือประมาณสิ้นเดือน ม.ค.ปีหน้า จากนั้น สนช. จะส่งร่าง พ.ร.ป.ให้ประธาน กรธ.และองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องพิจารณา อีก 10 วัน เพื่อดูว่าจะมีข้อโต้แย้งต้องตั้งกรรมาธิการร่วมหรือไม่ นายสมชาย แสวงการ กล่าวอีกว่า ถ้ามีขั้นตอนต้องตั้งกรรมาธิการร่วมทบทวน ก็จะกินเวลาออกไปอีก 15 วัน ถ้า สนช.เห็นชอบ ก็ต้องตรวจสอบความถูกต้องของร่างกฎหมายทั้งหมดก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ใช้เวลาอีกเกือบ 2 เดือน จะอยู่ที่ประมาณเดือน เม.ย.ปีหน้า เมื่อส่งร่าง พ.ร.ป.ให้นายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ต้องเก็บเรื่องไว้ก่อน เพื่อดูว่าจะมีใครยื่นเรื่องคัดค้านต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ คาดว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯได้ ประมาณเดือน พ.ค. และรอการโปรดเกล้าฯ ลงมาอีก 3 เดือน เมื่อโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว นับไปอีก 150 วัน จึงจัดการเลือกตั้งได้ อย่างไรก็ตาม สนช.รายนี้กล่าวด้วยว่า ถ้ามีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ร่าง พ.ร.ป. ก็ต้องเสียเวลาออกไปอีกระยะหนึ่ง ไม่รู้จะใช้เวลาแค่ไหน เป็นไปได้ว่านายกรัฐมนตรีอาจคิดเผื่อเวลาไว้ ในกรณีเกิดปัญหาต่าง ๆ เพราะต้องยอมรับว่า ร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง มีข้อทักท้วงเรื่องวิธีการเลือกตั้งมากมาย ขณะที่ ร่างพ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ก็เป็นการนำมาใช้ครั้งแรก ไม่รู้ว่าจะมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ แต่ไม่อยากให้ไปเร่งรัดเรื่องระยะเวลาเลือกตั้ง เพราะถ้ายังมีปัญหาอยู่ แล้วไปเลือกตั้ง ทุกอย่างจะกลับมามีปัญหาเหมือนเดิมอีก ถ้าจะล่าช้าออกไป 2-3 เดือน คงไม่เป็นไร