สถานการณ์ในประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายพิเศษและเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมสัมมนา “มิติการศึกษาพัฒนาพื้นที่พิเศษ เดินหน้าประเทศไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า มิติการศึกษาพัฒนาพื้นที่พิเศษ จะต้องเดินหน้าอย่างสร้างสรรค์ คือ ต้องปรับเปลี่ยนการเรียนรู้ให้ทันโลก แต่ต้องไม่ลืมประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยเฉพาะการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่ไม่มีประเทศใดเหมือน ขณะที่การศึกษาของเด็กและเยาวชน จะต้องเป็นไปอย่างทั่วถึง การพัฒนาต้องมีแผนให้เกิดการเชื่อมโยงในแต่ละกลุ่มจังหวัด ต้องสอนให้เด็กเรียนรู้อย่างเป็นระบบ ทั้งทักษะชีวิต อาชีพ และการสื่อสาร ที่ต้องปรับระบบให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันตนเอง การศึกษาของไทยนับจากนี้ ต้องสอนให้ผู้เรียนเข้าใจ สามารถตัดสินใจวางอนาคตของตนเองได้ มีเป้าหมายในชีวิต จะได้เลือกเรียนในสาขาที่ถูกต้อง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า จะต้องสอนให้เด็กรู้หลักคิดพื้นฐานที่ถูกต้อง อย่างเรื่องประชาธิปไตย หรือการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่สามารถเรียนรู้จากประเทศอื่น ๆ ได้ แต่เมื่อนำมาใช้จริงจะต้องดูบริบทที่สอดคล้องกับความเป็นไทยด้วย เพราะประเทศไทยไม่เหมือนประเทศอื่น รู้สึกตกใจที่เห็นคนจบปริญญาโทและเอก มาขึ้นทะเบียนคนจน ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ จึงต้องตรวจสอบหาสาเหตุถึงระบบการศึกษา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน. เพราะถือเป็นส่วนสำคัญลดความเลื่อมล้ำ ให้คนที่ขาดโอกาสทางการศึกษาตามระบบ เช่นเดียวกับการส่งเสริมการศึกษาอาชีวะ จะต้องสอดคล้องกับอาชีพที่ตลาดต้องการ อยากให้เปิดหลักสูตรระยะสั้น แบบประกาศนียบัตร เพื่อเป็นใบรับรอง สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฎ อยากให้ตรวจสอบว่าเรียนจบแล้วมีงานทำ มีรายได้เพียงพอหรือไม่ เพื่อนำมาจัดทำหลักสูตร วันนี้ ถึงเวลาที่จะต้องร่วมมือกันกำหนดกรอบการศึกษาให้เดินหน้าในทิศทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่มาทะเลาะเรื่องการคืนเงิน กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.ที่เป็นปัญหาเรื้อรัง ต้องทบทวนหลักเกณฑ์การพิจารณาตั้งแต่เริ่มยืม กำหนดให้ชัดเจนว่าใครมีสิทธิที่จะกู้ยืมเรียนได้