สถานการณ์ในประเทศ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ระบุว่า หากทุกอย่างพร้อม ไม่ว่าจะเป็น กฎหมายหรือการแก้ไขปัญหาปรองดอง การเลือกตั้งจะมีขึ้นในปีหน้าว่า นับเป็นเรื่องที่ดีที่มีความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรีออกมาอีกระดับหนึ่ง แม้จะมีเงื่อนไขเรื่องความพร้อมของกฎหมายและเรื่องปรองดอง เพราะวันนี้ผลสำรวจเกือบทุกสำนัก ออกมาคล้าย ๆ กัน เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เช่น ประชาชนสนใจวันเลือกตั้งและอยากให้มีประชาธิปไตย ส่วนเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ ที่จะทำให้การเลือกตั้งเดินหน้าได้นั้น อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สำหรับเรื่องการปรองดอง ก็ได้รับการขานรับจากทุกส่วน ทุกพรรคการเมือง ทุกกลุ่มการเมือง และภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมว่า อยากเห็นการปรองดองเกิดขึ้น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ กล่าวต่อว่า การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ ทุกฝ่ายต้องเคารพในกระบวนการต่าง ๆ ของสังคมอย่างจริงจัง คือ 1.เคารพกระบวนการยุติธรรม 2.เคารพกระบวนการทางการเมือง 3.เคารพกระบวนการประชาธิปไตย เชื่อว่าถ้าทุกฝ่ายเคารพและปฏิบัติตามกระบวนการที่สำคัญของสังคมอย่างตรงไปตรงมา ก็เชื่อว่าบ้านเมืองน่าจะอยู่ได้ บนพื้นฐานของการปรองดองอย่างแน่นอน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวกรณีอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. รายหนึ่ง กล่าวว่า บ้านเมืองมีปัญหา เพราะบางฝ่ายไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้ายอมรับผลการเลือกตั้งกลไกปรองดองก็จะเดินหน้าได้ว่า ที่ผ่านมา พรรคการเมืองต่างยอมรับผลการเลือกตั้ง ใครชนะเลือกตั้ง ได้เสียง ส.ส.ในสภามากกว่า ก็ไปทำหน้าที่เป็นรัฐบาล ใครได้เสียง น้อยกว่าก็ไปเป็นฝ่ายค้าน ส่วนตัวเห็นว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น เมื่อผู้มีอำนาจของบ้านเมืองในรัฐบาลใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ใช้อำนาจเกินขอบเขต กระทำการทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อตนเองและพวกพ้อง โดยไม่ฟังเสียงท้วงติงของฝ่ายค้านและฝ่ายต่าง ๆ ในสังคม ถ้าใครขึ้นมาเป็นรัฐบาลแล้วบริหารงานไปตามปกติไม่ทุจริต ไม่ใช้อำนาจโดยไม่ชอบเกินขอบเขต ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองคงไม่เกิดขึ้น ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวกับการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง