สถานการณ์ต่างประเทศ

นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวเมื่อวันพุธ หลังเสร็จสิ้นการประชุม วาระฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี เกี่ยวกับ สถานการณ์ของชาวโรฮิงญาในเมียนมา เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาระงับปฏิบัติการ ทางทหารในรัฐยะไข่ ยุติการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือน ยึดมั่นตามหลักนิติธรรม และ รับรองสิทธิความเป็นพลเมืองของชาวโรฮิงญา ซึ่งลี้ภัยออกจากเมียนมาไปแล้วมากกว่า 1 ใน 3 จากที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือราว 1.1 ล้านคน และสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน ของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในบังกลาเทศ "อยู่ในขั้นวิกฤติ" ขณะที่แถลงการณ์ร่วมของสมาชิกยูเอ็นเอสซี 15 ประเทศ ระบุถึง "ความวิตกกังวล อย่างยิ่ง" ต่อสถานการณ์ในรัฐยะไข่ที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และเรียกร้องให้ รัฐบาลพลเรือนเมียนมาของนางออง ซาน ซูจี เร่งยุติการใช้มาตรการรุนแรงในพื้นที่ โดยเร็วที่สุด มีรายงานว่าจีนยับยั้งข้อเสนอของอียิปต์ในการเพิ่มถ้อยคำเกี่ยวกับ การเรียกร้องให้เมียนมารับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลุ่มล่าสุด ร่วม 400,000 คน กลับ จากบังกลาเทศ ด้านนายแมทธิว ไรครอฟต์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำสหประชาชาติ ซึ่งเป็นผู้เสนอญัตติการประชุมครั้งนี้ กล่าวแสดงความพึงพอใจต่อแถลงการณ์ของ ยูเอ็นเอสซี ที่ถือเป็นแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ในรัฐยะไข่ฉบับแรก นับตั้งแต่ ปี 2551 และสหราชอาณาจักรจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การหารือนอกรอบระดับรัฐมนตรี ของการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นจีเอ ในสัปดาห์หน้าด้วย