สถานการณ์ในประเทศ

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าช่วงวันที่ 14 - 18 กันยายนนี้ ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุม ทะเลอันดามันและประเทศไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคกลาง ซึ่งจะส่งผลให้มีน้ำท่า ไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นนั้น กรมชลประทาน วางแผนการบริหารจัดการน้ำ เพื่อลดยอดปริมาณน้ำหลากที่จะไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่าง เข้าไปเก็บไว้ในทุ่งแก้มลิง 12 ทุ่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ จำนวน 1.15 ล้านไร่ โดยได้ดำเนินการปรับปฏิทินการเพาะปลูกให้เร็วขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นมา เพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนจะถึง ฤดูน้ำหลากเดือนกันยายน – ตุลาคม ปัจจุบันพบว่า ภายในวันพรุ่งนี้ ( 15 ก.ย.) จะสามารถเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จในทุกพื้นที่ ก่อนจะ ปรับพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีทั้งหมด 12 ทุ่ง ให้เป็นพื้นที่รองรับน้ำหลาก โดยที่ประชุมคณะอนุกรรมการ ติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ได้กำหนดให้วันที่ 25 กันยายนนี้ เป็นวันเริ่มต้น ตัดยอดน้ำผ่านระบบชลประทานเข้าทุ่งต่าง ๆ จำนวน 10 ทุ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณท้ายเขื่อน เจ้าพระยา ประกอบด้วย ทุ่งเชียงราก ทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท - ป่าสัก ทุ่งท่าวุ้ง ทุ่งบางกุ่ม ทุ่งบางกุ้ง ทุ่งป่าโมก ทุ่งผักไห่ ทุ่งเจ้าเจ็ด ทุ่งพระยาบรรลือ ทุ่งโพธิ์พระยา และสำรองพื้นที่ ไว้อีก 2 ทุ่ง คือ ทุ่งบางบาล และทุ่งรังสิตใต้ สามารถเก็บกักน้ำได้สูงสุด 1,500 ล้าน ลูกบาศก์เมตร