SMART NEWS

ราคาทองวันนี้ (24 พ.ย. 68) ปรับลง 150 บาท รูปพรรณบาทละ 63,100 บาท 24 พ.ย. 68 09:11 น.

สถานการณ์ในประเทศ

ตำรวจเร่งพิจารณาคดี “น้ำมนต์” หลอกชายแต่งงาน เข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่

views

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จับกุมตัว น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ น้องภรณ์ หรือ น้ำมนต์ อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดเลย ผู้ต้องหาในคดีหลอกชายหนุ่มแต่งงาน ก่อนเชิด เงินสินสอดหลบหนี ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายราย โดยก่อนหน้านี้ผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์ ไว้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม พันตำรวจเอก สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว 4 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผู้เสียหายที่เหลืออีกประมาณ 9 ราย มาสอบปากคำให้ครบ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่ามีผู้เสียหายรายใดบ้าง ที่ยังไม่ได้แจ้งความ ร้องทุกข์กับตำรวจท้องที่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการแจ้งวันเวลานัด เพราะผู้เสียหายบางราย ไม่อยากแจ้งความ บางคนเกรงภรรยาคนปัจจุบันจะทราบเรื่อง จึงทำให้ผู้เสียหายบางราย ยังไม่เข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา น.ส.จริยาภรณ์ ในข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น” หากพบว่ามีจำนวนผู้เสียหายเพิ่ม พนักงานสอบสวนจะพิจารณาข้อหาอื่นๆด้วย เช่น กฎหมายฟอกเงิน เนื่องจากการฉ้อโกงเป็นปกติธุระ-ที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก เป็นความผิด มูลฐานฟอกเงินได้ แตกต่างกับการฉ้อโกงที่มีผู้เสียหายรายเดียว โดยตอนนี้อยู่ระหว่างพิจารณาและรอสอบปากคำ ผู้เสียหายเพิ่มเติมว่าเป็นการฉ้อโกงเป็นปกติธุระ-หรือไม่ ส่วนกรณีของ น.ส.สร้อยเพ็ชร พาลีวัลย์ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดเลย ที่ถูก น.ส.จริยาภรณ์ นำบัตร ประจำตัวประชาชน ไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อใช้หลอกผู้เสียหายนั้น รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า จากการสอบปากคำ น.ส.สร้อยเพ็ชร ให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็น และไม่ได้ไปเปิดบัญชี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ปักใจเชื่อ โดยจะตรวจสอบกับธนาคารก่อนว่า เป็นการเปิดบัญชีด้วยวิธีใด ใครเป็นคนไปเปิด รวมทั้งต้องหาหลักฐานต่าง ๆ มาประกอบด้วย

TW-headbar