สถานการณ์ในประเทศ

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ (สนพ.) เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ชะลอแผนการรับซื้อ ไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ สตึงมนัม จากประเทศกัมพูชาออกไปก่อน เพื่อให้กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ศึกษาความต้องการใช้น้ำและแหล่งน้ำที่จะนำมารองรับพื้นที่โครงการ พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ให้มีความชัดเจนมากขึ้น จากข้อมูลพบว่าปริมาณน้ำที่จะใช้รอบรับโครงการ EEC ยังขาดอยู่ประมาณ 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความต้องการทั้งหมด 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งการรับซื้อ ไฟฟ้าจากโครงการสตึงมนัมในอัตรา 10.75 บาท/หน่วยนั้น จะได้ทั้งปริมาณไฟฟ้าและน้ำ โดยเฉพาะน้ำที่จะเข้ามาช่วยในพื้นที่ภาคตะวันออกได้ราว 300 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ การคำนวณอัตรารับซื้อไฟฟ้ามาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ซึ่งคำนึง ถึงการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ และการส่งน้ำผ่านท่อในพื้นที่ที่เป็นหุบเขา อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน แจ้งว่าปริมาณน้ำยังเพียงพอใช้ได้อีก 12 ปี แต่หลังจาก 12 ปีแล้วปริมาณน้ำจะมีเพียงพอหรือไม่ การบริหารจัดการน้ำเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของ ประเทศอย่างไร ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ รัฐบาลไทยมีแผนที่จะซื้อไฟฟ้าจากโครงการสตึงมนัม ด้วยอัตราการรับซื้อไฟฟ้า ที่สูงถึง 10.75 บาท/หน่วย แม้จะได้ทั้งไฟฟ้าและปริมาณน้ำเข้ามาเพื่อรองรับโครงการ EEC ก็ตาม เมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของไทย เฉลี่ยอยู่ที่ราว 2.60 บาท/หน่วย และราคาขายปลีกไฟฟ้าในประเทศอยู่ที่ราว 3.6 บาท/หน่วย ทำให้เกิดกระแสต่อต้าน อย่างมาก ขณะที่นายกรัฐมนตรีเตรียมเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.)