สถานการณ์ในประเทศ

นางปอยใจระพี เตริยาภิรมย์ ภรรยา บุตรชาย 2 คนและน้องชายของนายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีระบายข้าวแบบ รัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 42 ปี พร้อมด้วยนายนรินทร์ สมนึก ทนายความ เดินทางมาติดต่อ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เพื่อทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายบุญทรง นายนรินทร์ สมนึก ทนายความ กล่าวว่า จากการเข้าเยี่ยมนายบุญทรง พบว่ายังคงมี ความเครียดและวิตกกังวลยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว ถือว่าดีกว่าครั้งก่อน เนื่องจาก มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น ส่วนเรื่องการยื่นขอประกันตัวอีกครั้งนั้น อยู่ระหว่าง การเตรียมร่างเหตุผลในการขอประกันตัว ซึ่งจะต้องมีการพิจารณากลั่นกรองในการ ให้เหตุผลต่อศาลที่ดีที่สุด จึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบครอบ ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ติดปัญหาเรื่องการเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่ขอเปิดเผย และคาดว่าน่าจะยื่นขอประกันอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า ในส่วนของ นายบุญทรงนั้น ไม่ได้เร่งรัดในเรื่องนี้มากนัก โดยมอบให้ตนเองเป็นผู้ตัดสินใจ แต่กำชับ ให้ทำให้ดีที่สุดก็พอ และขอให้รายงานความคืบหน้าอยู่เสมอ ซึ่งช่วงนี้ตนเองจะพยายาม เดินทางมาเข้าเยี่ยมนายบุญทรง ให้ได้มากที่สุด ส่วนที่นางปอยใจระพี ภรรยาของนายบุญทรง ยื่นฟ้องกรมบังคับคดี กรมการค้า ต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จากกรณีภรรยาของนายบุญทรง ถูกอายัดบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นบัญชีที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับนายบุญทรง จนเกิดการฟ้องร้องกันขึ้นมานั้น ทางด้านนายบุญทรงมีความประสงค์ ให้ภรรยา ไปถอนฟ้อง เนื่องจากไม่ต้องการให้ภรรยาตกเป็นเป้า และขอความร่วมมือ สื่อมวลชน อย่าไปยุ่งเกี่ยวหรือรบกวนนางปอยใจระพีมากนัก ส่วนกำหนดการที่จะเดินทางไปยื่นถอนฟ้องนั้น จะเร่งดำเนินการวันพรุ่งนี้ (30 ส.ค.) ส่วนกรณี ป.ป.ช.ตรวจสอบการทุจริตการขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ล็อตที่ 2 อีก 8 สัญญา ปริมาณ 14 ล้านตันนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยหารือกับนายบุญทรง เนื่องจากคดียังอยู่ในขั้นตอนของการไต่สวน