สถานการณ์ในประเทศ

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.พิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงาน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานบริษัท ไร่ส้มฯ เป็นจำเลยฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ เงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ อสมท กว่า 138 ล้านบาท ซึ่งจำเลยปฏิเสธ คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การกระทำของ น.ส.พิชชาภา มีความผิดตามมาตรา 6, 8 และ 11 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ให้ลงโทษตามมาตรา 6 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุก 30 ปี ทางนำสืบเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 20 ปี สั่งปรับเงิน บริษัท ไร่ส้ม 1.2 แสนบาท ลดเหลือ 8 หมื่นบาท ส่วนนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา มีความผิดฐานสนับสนุน ให้ลงโทษหนักสุด จำคุก 20 ปี ให้ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุกคนละ 13 ปี 4 เดือน ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ จำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ที่พวกจำเลยอ้างว่า เคยประกอบคุณงามความดีเพื่อให้ที่ศาลพิจารณาประกอบนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นคนละเรื่องกัน ที่ศาลชั้นต้นพิพากลงโทษจำเลยมานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น นายสรยุทธ กล่าวในห้องพิจารณาว่า จะยื่นฎีกาในทุกข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายทุกประเด็น พร้อมเตรียมเพิ่มหลักทรัพย์ขอประกันตัวระหว่างฎีกา ล่าสุด ศาลพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของนายสรยุทธและจำเลยร่วมทั้งหมด ซึ่งยื่นหลักทรัพย์เงินสดและบัญชีเงินฝากคนละ 4 ล้านบาทแล้ว เห็นควรส่งคำร้องให้ศาลฎีกาเป็นผู้สั่งประกันต่อไป และศาลอาญาคดีทุจริตฯ ออกหมายขังจำเลยทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำก่อน ระหว่างรอฟังคำสั่งการประกันตัวจากศาลฎีกา คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ นายสรยุทธ จะถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนผู้ต้องขังหญิงคุมตัวไว้ที่ ทัณฑสถานหญิงกลาง