สถานการณ์ในประเทศ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพบว่า แทนที่ทหารจะเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังประสบภัย แต่กลับไปถามว่า จะไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ สังคมเลยจุดสงสัยไปแล้วว่า ทหารทำอย่างนั้นเพราะอะไร เป็นที่รู้ว่ามีปฏิบัติการดังกล่าวจริง และหลังจากนี้หากจะมีการต่อยอดจากการลงพื้นที่ ครม.สัญจร จ.นครราชสีมา ของนายกฯ ก็แล้วแต่ อย่างไรก็ตาม การทำแบบนี้ เป็นการช่วยโปรโมทว่า กำลังจะมีการตัดสินคดีจำนำข้าว ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลตื่นเต้นเรื่องนี้ที่สุด จึงอยากให้รัฐบาลคิดเรื่องการเมืองให้น้อยลง แล้วนำเวลาไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะดีกว่า ควรปล่อยให้วันที่ 25 ส.ค. เป็นกระบวนการของศาล และเป็นไปตามธรรมชาติ ประชาชนอยากมาก็ให้มา เพราะ 20 กว่านัด ที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหาอะไร และไม่มีใครไปจัดการหรือเกณฑ์คนมา รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังให้ความเห็นกรณีรัฐบาลขอความร่วมมือสื่อมวลชนติดตามรัฐมนตรีในรัฐบาลเพื่อทำสกู๊ปข่าว โปรโมทผลงานของแต่ละกระทรวง ระหว่างการประชุม ครม.สัญจร ว่า การที่คนในรัฐบาลออกมาปกป้อง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าสื่อไปแปลเจตนารมณ์ผิดนั้น ส่วนตัวเห็นว่า พล.ท.สรรเสริญ น่าจะเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ คนแรกของประเทศ ที่กล้าหาญทำแบบนี้ ไม่ต้องพูดอะไรเอาแค่ทัศนคติและวิธีคิดก่อน อยากถามว่าเคารพสื่อมวลชนหรือไม่ หรือพูดอยู่คนเดียวจนติดนิสัย ถ้ารัฐบาลมีผลงานที่น่าสนใจ โดยหลักแล้วสื่อจะต้องเข้าไปทำข่าวเพื่อนำเสนออยู่แล้ว รัฐบาลอื่น ๆ มีรัฐมนตรีที่โลกลืมเพียงคนสองคน แต่ ครม.นี้ โลกลืมทั้งคณะเพราะมีเพียง นายกฯ และรัฐมนตรีบางคนเท่านั้นที่พูดอยู่ตลอด จึงควรไปทำความเข้าใจกับรัฐมนตรีของตัวเองมากกว่า ว่าเหตุใดจึงพูดแล้วไม่ได้รับการนำเสนอจากสื่อมวลชน หรือรัฐมนตรีมีผลงานอะไรบ้างอย่างไร การมาขอความร่วมมือสื่อแบบนี้นอกจากจะเสียหายแล้ว ยังเป็นการประจานตัวเองว่าไม่มีผลงาน