สถานการณ์ในประเทศ

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง “คดีใหญ่ในสายตาประชาชน” จากประชาชนทั่วประเทศ 1,168 คน ระหว่างวันที่ 15-19 ส.ค. ต่อกรณีที่ในช่วงนี้มีเหตุการณ์ร้ายแรงและคดีใหญ่ ๆ ให้ติดตามข่าวหลายเรื่อง เช่น คาร์บอม ยาเสพติด การปล้นฆ่า คนสูญหาย และคดีอุกฉกรรจ์ ทั้งที่อยู่ในช่วงการบริหารประเทศโดยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีอำนาจ คสช.อยู่ สรุปได้ว่า ประชาชนคิดว่าคดีใหญ่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีมากขึ้น 47.35% เพราะคนมีจิตใจโหดเหี้ยมรุนแรงมากขึ้น ไม่เกรงกลัว ไม่เคารพกฎหมาย สื่อมักนำเสนอข่าวให้เห็นบ่อยครั้ง อันดับ 2 เหมือนเดิม 44.17% เพราะสภาพเศรษฐกิจและสังคมเสื่อมโทรม ความเหลื่อมล้ำมีมาก คดีต่างๆ มีให้เห็นทุกยุคทุกสมัย ฯลฯ อันดับ 3 น้อยลง 8.48% เพราะรัฐบาลปราบปรามอย่างจริงจัง อยู่ในช่วง คสช. มีอำนาจพิเศษ สามารถใช้มาตรา 44 ได้ สำหรับแนวทางป้องกันปัญหาเหล่านี้ คดีความมั่นคง เช่น การก่อการร้าย คาร์บอม ควรมีแนวทางป้องกัน คือ อันดับ 1 67.89% รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างจริงจัง เจรจา พูดคุย เสริมสร้างความสามัคคี อันดับ 2 66.35% เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เฝ้าระวัง หน่วยข่าวกรองต้องแม่นยำ อันดับ 3 49.40% ประชาชนในพื้นที่ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา และระมัดระวังตนเอง คดีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เช่น การปล้น คนสูญหาย ควรมีแนวทางป้องกัน อันดับ 1 68.58% พัฒนาเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ อันดับ 2 63.36% ติดกล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้จริงตามจุดต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ อันดับ 3 62.84% สื่อนำเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง ป้องกันการลอกเลียนแบบ คดีอุกฉกรรจ์ เช่น ฆาตกรรมโหด ฆ่าเผาทำลายศพ อุ้มฆ่า ยาเสพติด ควรมีแนวทางป้องกัน อันดับ 1 70.46% รัฐบาลปราบปรามอย่างจริงจัง ลงโทษรุนแรง ประหารชีวิต อันดับ 2 66.95% สร้างงาน สร้างอาชีพ ลดความเหลื่อมล้ำ อันดับ 3 64.30% ครอบครัวให้ความรักความอบอุ่น ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ส่วนประชาชนคิดว่าคดีต่าง ๆ เหล่านี้สามารถใช้กฎหมายธรรมดาหรือต้องใช้มาตรา 44 ในการจัดการเพื่อให้เกิดความสงบและความมั่นคง อันดับ 1 ใช้มาตรา 44 จัดการ 52.77% เพราะ เป็นอำนาจพิเศษ เด็ดขาด ดำเนินการได้รวดเร็ว ทำให้ผู้คิดกระทำผิดเกรงกลัว ลดขั้นตอนการทำงาน ฯลฯ อันดับ 2 ใช้กฎหมายธรรมดาจัดการ 47.23% เพราะ กฎหมายเดิมมีบทลงโทษที่ชัดเจนอยู่แล้ว สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย