สถานการณ์ในประเทศ

ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. มีมติเอกฉันท์ 199 คะแนน เห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. ซึ่งตามขั้นตอนประธาน สนช.จะส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านความเห็นชอบจาก สนช.แล้ว ไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. และ กสม. เพื่อให้พิจารณาว่ามีเนื้อหาที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะเสนอให้มีการตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่วมกัน 3 ฝ่ายหรือไม่ต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมไม่อาจหาข้อสรุปในมาตรา 60 ว่าด้วยว่าการดำรงอยู่ของกสม.ชุดปัจจุบัน ที่ดำรงตำแหน่งก่อนวันที่ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกสม.ฉบับใหม่ ประกาศใช้ ส่งผลให้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ต้องสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 15 นาที เพื่อให้สมาชิก สนช.หารือเป็นการภายใน จากนั้นได้กลับมาประชุมตามปกติ โดยที่ประชุมมีมติแก้ไขเนื้อหาในบทบัญญัติมาตรา 60 ซึ่งให้กลับไปใช้เนื้อหามาตรา 60 ตามที่ กรธ.เสนอ คือ ให้ประธาน กสม.และ กสม.ที่ดำรง ตำแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญใช้บังคับ พ้นจากตำแหน่งนับแต่ วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ แต่ให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า ประธาน กสม.และ กสม.ที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ซึ่งมีการกำหนดระยะเวลา การสรรหา กสม.ชุดใหม่ให้เสร็จภายใน 320 วัน จากเดิมที่คณะกรรมาธิการวิสามัญของ สนช.ที่มี พลเรือเอก วัลลภ เกิดผล เป็นประธาน กำหนดให้ประธาน กสม.และกสม. ชุดปัจจุบันทำหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะครบ 3 ปี นับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง โดยที่ประชุม สนช.มีมติเสียงข้างมาก 177 ต่อ 20 คะแนน เห็นชอบกับมาตรา 60 ที่มีการ แก้ไขดังกล่าว