สถานการณ์ต่างประเทศ

เกิดเหตุปะทะรุนแรง ระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนแนวคิดชาตินิยมสุดโต่งขวาจัด หรือกลุ่มนิยม ผิวขาว ที่เดินขบวนไปตามท้องถนนในเมืองชาร์ลอตต์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย ของสหรัฐ เพื่อแสดงความไม่พอใจการรื้ออนุสาวรีย์ พล.อ.โรเบิร์ต อี. ลี แกนนำกองกำลังสมาพันธรัฐ หรือรัฐทางใต้ที่สนับสนุนการค้าทาส และทำสงครามกับรัฐทางเหนือของสหรัฐในช่วงสงครามกลางเมือง ระหว่างปี พ.ศ.2404-2408 ออกไปจากเมือง กับกลุ่มผู้ต่อต้านแนวคิดขวาจัดและกลุ่มเชิดชู ผิวขาว จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุรถยนต์คันหนึ่ง แล่นพุ่งชนผู้คนที่ต่อต้านการเดินขบวนประท้วงดังกล่าว ไม่นาน หลังจากเจ้าหน้าที่สามารถสลายการปะทะของทั้ง 2 ฝั่งได้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ได้รับบาดเจ็บอีกราว 35 คน แมตต์ คอร์บอน นักศึกษามหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เล่าว่า ขบวนประท้วงต่อต้านฝ่ายขวาจัดหลายร้อยคน ชุมนุมกันอย่างสงบ จู่ ๆ ก็มีเสียงรถบึ่งเข้ามาไล่ชนคน และคนขับรถถูกจับกุมในเวลาต่อมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทางการเมืองชาร์ลอตต์วิลล์ ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เปิดทางให้สามารถร้องขอกองกำลังจากส่วนอื่น ๆ มาเพิ่มเติม เพื่อจัดการการประท้วงรุนแรง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงประณามการใช้ความรุนแรงของหลายฝ่าย ทั้งผู้ประท้วงและกลุ่มคนผิวขาวที่ปลุกระดมความเกลียดชังและอคติที่มีมานานในประเทศ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสามัคคีกัน แต่ไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ตะโกนถามว่า จะยังสนับสนุนกลุ่มคลั่งชาติที่เป็นฐานเสียงของตนเองอยู่หรือไม่ ขณะที่นายไมเคิล ซิกเนอร์ นายกเทศมนตรีเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ ทั้งตำหนิพวกคลั่งชาติผิวขาว และตำหนินายทรัมป์ด้วย ที่หาเสียงปลุกระดมความอคติตั้งแต่ปีก่อน