สถานการณ์ในประเทศ

หลังได้ความชัดเจนแล้วว่า รถยนต์หรูล็อตที่ 2 ที่กรมศุลกากรประเมินรายการภาษี กลับมาให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ชำระภาษีขาดไป 1,165 ล้านบาท รวมของเดิม 30 คัน เป็นเงินภาษีที่ชำระขาดไป 1,815 ล้านบาท ดีเอสไอจะเร่งเรียกผู้นำเข้ารถยนต์หรูมารับทราบข้อกล่าวหา โดยสัปดาห์นี้ จะส่งหมายเรียกให้ผู้ประกอบการนำเข้า เข้ารับทราบข้อหาสำแดงเท็จ ในล็อตที่ 2 พันตำรวจโทกรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดี ดีเอสไอ ระบุว่า ที่ผ่านมา ได้ยืนยันมาตลอดว่า เน้นดำเนินคดีกับผู้นำเข้ารถยนต์ที่สำแดงใบอินวอยซ์เท็จ แต่ประเด็นที่ขอให้ ดีเอสไอ ถอนการอายัดรถยนต์ เพื่อปล่อยให้มีการซื้อขายได้นั้น ต้องขอเวลาพิจารณาด้วยความรอบคอบ เพราะการถอนอายัดอาจส่งผลกระทบไปยังผู้ซื้อรายอื่น ๆ ที่มาซื้อรถต่ออีกหลายทอด จะตำหนิ ดีเอสไอ ว่ารถผิดกฎหมาย แต่ถอนอายัดให้ซื้อขายได้อย่างไร ส่วนผู้ครอบครองรถยนต์ที่ประสงค์ ขอรับรถกลับไปดูแลรักษาเอง ดีเอสไอ ให้ทำสัญญา ประกัน 15 ล้านบาท กรณีที่รถสูญหายหรือชำรุดบกพร่องนั้น ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว เพราะรถแต่ละคันสำแดงภาษีต่ำชำระภาษีขาดไปหลาย 10 ล้านบาท ดังนั้น จึงจำเป็น ต้องทำสัญญาประกันเพื่อให้การคืนรถของกลางเป็นไปตามระเบียบ