สถานการณ์ในประเทศ

นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงความคืบหน้าการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาหลักการ ที่มีนายประพันธ์ นัยโกวิท ประธานอนุกรรมการฯเสนอผลการศึกษา 39 ประเด็น กรธ.พิจารณาไปแล้ว 29 ประเด็น โดยเรื่องหมายเลขผู้สมัคร จากเดิมแบบเขตเดียวเบอร์เดียว ได้ปรับเปลี่ยนให้ผู้สมัครแต่ละเขต จับสลากเบอร์ของตัวเองตามลำดับการสมัคร แม้จะอยู่ในพรรคเดียวกัน เพื่อให้ผู้สมัครในแต่ละเขตได้แสดงความรู้ ความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่พึ่งพาอาศัยหมายเลขพรรคเพื่อช่วยให้ได้เป็น ส.ส. ส่วนการกำหนดให้แต่ละพรรคส่งรายชื่อผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ไม่เกิน 3 ชื่อ และวิธีการประกาศรายชื่อให้ประชาชนทราบ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ต้องไปดำเนินการวางระเบียบและหลักเกณฑ์ โฆษก กรธ. แถลงอีกว่า การกำหนดเขตเลือกตั้ง กกต.ต้องหารือกับพรรค จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในแต่ละหน่วย ให้ใช้เกณฑ์ขั้นต่ำ 1,000 คน จากเดิม 800 คน เป็น 1 หน่วยเลือกตั้ง ห้คำนึงถึงความสะดวกของผู้ที่จะไปลงคะแนนเป็นสำคัญ การนับผลคะแนนเลือกตั้ง กรธ. มีความเห็นว่า ควรจะนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งเพื่อความรวดเร็ว ส่วนบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จะปิดประกาศไว้หน้าหน่วย แต่ไม่ต้องใส่หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลสิทธิส่วนบุคคล สำหรับผู้สมัคร ส.ส.จะต้องมีหลักฐานประกอบการสมัคร ส.ส. ตามมาตรา 36 (2) คือ การยื่นหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ย้อนหลัง 3 ปี ค่าธรรมเนียมการสมัคร ส.ส.10,000 บาท และในกรณีที่ผู้สมัครได้เสียงเกิน ร้อยละ 5 ของผู้ที่ลงคะแนนในเขตนั้น จะได้รับเงินคืน 5,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง นายนรชิต สิงหเสนี กล่าวว่า กรธ. เห็นว่าจะต้องยึดตามที่ กกต.เคยประกาศไว้ ถ้าเจ้าหน้าที่ กกต.รายงานเท็จ ให้ลงโทษไล่ออก แต่ถ้าไม่รายงานก็ถือว่า เป็นการหย่อนสมรรถภาพในการทำงาน อีกทั้งสามารถส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน กรณีสงสัยว่าจะมีการทุจริตการเลือกตั้งด้วย กรณีการหาเสียงออนไลน์ มีแนวคิดว่าสามารถทำได้ และให้รวมเป็นค่าใช้จ่าย ส่วนการทำโพลที่มีลักษณะเป็นการชี้นำ กรธ.ไม่ได้ห้าม แต่เห็นว่าถ้าไม่ทำจะดีกว่า เนื่องจากผลโพลสามารถชักจูง และโน้มน้าวใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ แต่ขอให้ กกต. กำหนดหลักเกณฑ์ก่อน ส่วนการลงคะแนน สามารถลงคะแนนได้โดยบัตร หรือ เครื่องลงคะแนนอิเลคทรอนิกส์ กรณีเครื่องลงคะแนน กรธ.ตั้งเงื่อนไขไว้ 3 ประการ กรธ.ยังเห็นควรขยายเวลาการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ไปอีก 1 ชั่วโมง เป็น 08.00 น.-16.00น. ด้วยหวังจะมีผู้ไปใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้น สำหรับโทษของบุคคลไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในทุกระดับโดยไม่มีเหตุผลอันควร จะถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 2 ปี และไม่สามารถดำรงตำแหน่งใด ๆ ในทางการเมือง การรับการสรรหาในองค์กรอิสระได้ อีกทั้ง ถ้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองอยู่ ก็ให้พ้นจากตำแหน่งทันที