สถานการณ์ต่างประเทศ

ทำเนียบขาวประกาศเมื่อวันจันทร์ ว่านายแอนโธนี สคารามุชชี พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร หลังได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 21 ก.ค. โดยนางซาราห์ แซนเดอร์ส รองโฆษกหญิงประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รู้สึกว่าการใช้คำพูดและทัศนคติของนายสคารามุชชีในหลายประเด็น สะท้อนการไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ การพ้นจากตำแหน่งแบบสายฟ้าแลบของ นายสคารามุชชี วัย 53 ปี อดีตผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์ ในวอลล์สตรีท และเป็นหนึ่งในบุคคลใกล้ชิดของทรัมป์ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลัง พล.อ.จอห์น เคลลีย์ เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการ นางแซนเดอร์ส กล่าวว่า กระบวนการทำงานในทำเนียบขาว "ยังคงเป็นปกติ" โดยพล.อ.เคลลีย์ "มีอำนาจเต็มที่" ในการบริหารเพื่อให้กิจการภายในทำเนียบขาวดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ และเจ้าหน้าที่ทุกคนรายงานขึ้นตรงกับ พล.อ.เคลลีย์ รวมถึงนายจาเร็ด คุชเนอร์ ที่ปรึกษาอาวุโส และลูกเขยของผู้นำสหรัฐ และภรรยาคือ น.ส.อิวังก้า ทรัมป์ ซึ่งทำงานในฐานะที่ปรึกษาของประธานาธิบดี นายสคารามุชชีถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนที่ 3 ของทีมงานฝ่ายสื่อสารในทำเนียบขาว ที่ต้อง พ้นจากตำแหน่งภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ คนแรก คือ นายฌอน สไปเซอร์ ซึ่งจะหมดวาระ การเป็นโฆษกทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการสิ้นเดือนนี้ ตามด้วย นายไรนซ์ พรีบัส ซึ่งลาออก จากตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งการลาออกของ นายพรีบัสเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังถูกนายสคารามุชชี วิจารณ์ว่าเป็น "พวกจิตเภทที่มีอาการ หวาดระแวง"