สถานการณ์ต่างประเทศ

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ศาลคดีคอร์รัปชั่นของบราซิล มีคำพิพากษาเมื่อวันพุธ ให้อดีตประธานาธิบดี ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา รับโทษจำคุกเป็นเวลา 9 ปี 6 เดือน และเว้นวรรคทางการเมืองอีก 19 ปี ฐานกระทำผิดจริงในข้อหาคอร์รัปชั่น ฐานรับสินบนที่เป็นทั้งเงินสด และอพาร์ตเมนต์หรูมูลค่าร่วม 3.7 ล้านเรอัลบราซิล หรือ ราว 42 ล้านบาท จากบริษัทก่อสร้าง โอเอเอส เอสเอ เพื่อแลกกับการให้ลูลาช่วยเหลือให้บริษัทได้รับสัมปทานจาก บริษัท เปโตรเลโอ บราซิเลโร หรือ เปโตรบราส รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดของอเมริกาใต้ ทั้งนี้ คำพิพากษายังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งทนายความของอดีตผู้นำบราซิลเตรียมยื่นอุทธรณ์ เช่นเดียวกับอัยการ ซึ่งเปิดเผยว่า จะยื่นอุทธรณ์ขอให้ผู้พิพากษาเพิ่มบทลงโทษแก่อดีตประธานาธิบดี แต่ผลการตัดสินดังกล่าวย่อมกลายเป็น "ตราบาป" และ "ความอัปยศ" ของลูลา วัย 71 ปี ซึ่งต้องการหวนคืนสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้ง ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีบราซิลครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนต.ค. ปีหน้า โดยหากลูลาได้รับชัยชนะจะถือเป็นการรับตำแหน่งสมัยที่ 3 เนื่องจากเคยอยู่ในวาระมาแล้ว 2 สมัยติดต่อกัน ระหว่างปี 2546-2554 และถือเป็นหนึ่งในนักการเมืองซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ นอกจากนี้ คำพิพากษาของศาลยังถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังบรรดานักการเมืองทุกระดับในบราซิล ว่าไม่ว่าจะอยู่หรือเคยอยู่ในตำแหน่งสูงแค่ไหน ทุกคนย่อมต้องรับโทษตามกฎหมาย หากกระทำผิดจริง ขณะที่ผู้นำบราซิลคนปัจจุบันคือ ประธานาธิบดีมิเชล เตเมร์ กำลังเผชิญกับคดีความเรื่องการรับสินบนเช่นกัน พร้อมทั้งต้องปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีหลายตำแหน่ง เนื่องจากทยอยลาออก หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีคอร์รัปชั่น