สถานการณ์ในประเทศ

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การวิพากษ์วิจารณ์การเมืองของนักการเมืองในสายตาประชาชน” จากทั่วประเทศ 1,152 คน ระหว่างวันที่ 29 พ.ค.-2 มิ.ย. เพื่อสะท้อนความคิดเห็น ที่มีต่อการวิพากษ์วิจารณ์ของนักการเมือง พบว่า . ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 75.88 ระบุ มีทั้งแง่บวกและลบ ควรรับฟังอย่างมีวิจารณญาณ , ร้อยละ 67.65 เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ เป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และร้อยละ 61.83 ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลเพิ่มขึ้น ได้แง่คิดมุมมองที่หลากหลาย . ประชาชน ร้อยละ 78.41 อยากให้นักการเมืองวิพากษ์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ให้ข้อ เสนอแนะที่มีเหตุผล นำไปปฏิบัติได้จริง ร้อยละ 74.62 นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวกับประชาชน เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และร้อยละ 62.94 พูดจาสุภาพ ปราศจากอคติ สำหรับการ วิพากษ์วิจารณ์ของนักการเมืองเชิงทำลาย ที่ประชาชนรับไม่ได้ ร้อยละ 83.29 พูดใส่ร้าย โจมตี ยุยง ทำให้เกิดความขัดแย้ง ร้อยละ 71.01 พูดเลื่อนลอย ไม่มีหลักการ ขาดข้อเท็จจริง และร้อยละ 65.61 ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ หยาบคาย ด่าทอ . ขณะเดียวกัน ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 82.50 คิดว่าการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเป็น ส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน สามารถแสดง ความคิดเห็นได้ ทำให้ได้ข้อมูลที่หลากหลาย เป็นการสะท้อนการทำงานของรัฐบาล ขณะที่ ร้อยละ 17.50 มองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะเป็นการวิจารณ์ที่ไม่มีประโยชน์ พูดเอาดี เข้าตัว มุ่งหวังประโยชน์ของตนเอง ต้องการยุยง สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง