สถานการณ์ในประเทศ

กรณีตำรวจภูธรภาค 4 ติดตามจับกุม น.ส.กวิตา ราชดา อายุ 25 ปี และ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย อายุ 24 ปี ที่ถูกหมายจับในข้อหา"ร่วมกันฆ่าผู้โดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้น ทำลายศพ" หลังเกิดการฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ อายุ 22 ปี สาวร้าน คาราโอเกะชื่อดังที่ ต.คำม่วง อ.เขาสวนกลาง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยพบว่าหลบหนีไปอยู่ในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงรายนั้น . ล่าสุด พบว่าช่วงที่ตำรวจและคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ระดับ ท้องถิ่น หรือ ทีบีซี ได้ติดต่อประสานงาน เพื่อขอให้ตำรวจท่าขี้เหล็กเข้าไปจับกุมทั้งคู่ ขณะกบดานอยู่บริเวณร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งห่างจากพรมแดนเข้าไปประมาณ 6 กิโลเมตรนั้น ปรากฏว่าผู้ต้องหาหญิงทั้ง 2 คน ได้หลบหนีจากการติดตามของ เจ้าหน้าที่แล้ว . มีรายงานว่า หลังจากทีบีซีฝ่ายเมียนมาได้รับเรื่อง และแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะเข้าไปจับกุม ปรากฏว่าบริเวณที่พักที่ทั้งคู่เคยใช้ซ่อนตัวอยู่ ไม่พบบุคคลใดอยู่แล้ว เมื่อตำรวจเมียนมาสอบถามไปยังผู้ประกอบการร้านคาราโอเกะ ทราบว่าก่อนหน้านี้เพียง ไม่กี่ชั่วโมง มีชายไทย 1 คน ขับรถยนต์ ไปรับตัวหญิงสาวชาวไทยที่มีลักษณะตรงกับที่ เจ้าหน้าที่ไทยระบุ เดินทางออกไปจากบริเวณที่พักของร้านคาราโอเกะแล้ว เจ้าหน้าที่ คาดว่าทั้งคู่และเครือข่ายไหวตัวทัน จึงหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการ ประสานงานผ่านทีบีซีอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ทีบีซีของเมียนมา ซึ่งมีทั้ง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายพลเรือนในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก รับจะออกติดตามจับกุมผู้ต้องหา ที่ทีบีซีฝ่ายไทยได้ขอความร่วมมือไปอย่างเต็มที่ต่อไปแล้ว . ทั้งนี้ น.ส.กวิตา และ น.ส.ปรียานุช ออกเดินทางจากฝั่งไทยไปด้วยรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว และทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว หรือ บอเดอร์พาสข้ามแดนไปอย่างถูกต้อง ตั้งแต่ วันที่ 25 พ.ค. ขณะที่ยังไม่ได้ถูกออกหมายจับ แต่เจ้าหน้าที่ไทยได้ตรวจสอบรถ และ เอ็กซเรย์เอาไว้ เพราะต้องสงสัยว่ามีการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ จากนั้นได้ปล่อยตัว ข้ามฝั่งไทยโดยใช้บอเดอร์พาสที่มีอายุอยู่ในฝั่งเมียนมาได้ 7 วัน