สถานการณ์ในประเทศ

กรณีผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 2 คน คือ นายแซนดี๊พ ซิงก์ อายุ 30 ปี และนายรัจ คูมาร์ อายุ 36 ปี ใช้หนังสือเดินทางประเทศโปรตุเกส แต่ถูกประเทศเกาหลีใต้ส่งตัวกลับมายัง จ.ภูเก็ต เนื่องจากตรวจสอบพบว่าอาจใช้หนังสือเดินทางปลอม กระทั่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าปลอมจริง จึงควบคุมตัวส่ง สถานีตำรวจภูธรสาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดี แต่ทั้งสองหลบหนี ออกจาก สภ.สาคู เมื่อเช้าวานนี้ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ภูเก็ต สั่งการให้ทุกท้องที่ร่วมกันสืบสวนติดตาม จนพบเบาะแสว่าเดินทางไปยังพื้นที่ ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นำไปสู่การจับกุม ขณะเดินอยู่หน้าร้านเทเลอร์ บริเวณตลาดโอทอป ต.ป่าตอง และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม “หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่” . พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า เบื้องต้น ทราบว่าทั้งสองสัญชาติจริง คือ อินเดีย เดินทางเข้าประเทศไทยอย่างถูกต้อง ใช้หนังสือ เดินทางตัวจริง เพื่อจะเดินทางต่อไปยังประเทศในแถบยุโรป และใช้พาสปอร์ตปลอมเดินทาง ระบุสัญชาติโปรตุเกส ออกจากประเทศไทย เพราะคิดว่าจะทำให้สามารถเข้าไปยังประเทศ ในแถบยุโรปได้สะดวกกว่า แต่มาถูกตรวจพบระหว่างเดินทางไปเกาหลีใต้ ในส่วนตำรวจ สภ.สาคู ที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาขณะหลบหนีนั้น จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน ข้อเท็จจริง ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ . มีรายงานว่า ผู้ต้องหาให้การว่า ได้ติดต่อกับเครือข่ายจัดทำหนังสือเดินทางปลอมจาก อินเดีย ในราคา 20,000 รูปี หรือ ประมาณ 10,000 บาทไทย โดยทางเครือข่าย นำหนังสือ เดินทางปลอมมาส่งให้ที่ จ.ภูเก็ต และเดินทางผ่าน ตม.ภูเก็ต มีจุดหมายที่ประเทศแคนาดา แต่ถูก ตม.เกาหลีใต้ ตรวจพบว่าเป็นหนังสือเดินทางปลอม จึงส่งตัวกลับมา .