สถานการณ์ในประเทศ

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่าเหตุระเบิดที่หน้าโรงละครแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. และหน้าสำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาลเก่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นรูปแบบที่มีความใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นการ ก่อกวน และสร้างสถานการณ์ โดยไม่ได้หวังผลร้ายแรง คิดว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องการเห็น บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าด้วยความสงบเรียบร้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยและ สั่งการผ่านฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องการบูรณาการข้อมูลข่าวสารด้านการข่าว ต้องค้นหา และพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าผู้ที่ก่อเหตุมีพื้นฐานมาจากไหนอย่างใด เกี่ยวข้องกับด้านการเมืองหรือไม่ หรือเป็นกลุ่มคนที่ไม่พอใจเป็นการส่วนตัว หรือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการต่างๆ ของรัฐบาล และ คสช. ทั้งเรื่องการกวาดล้างผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด การจัดระเบียบ . พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ผู้ก่อเหตุ เพียงต้องการลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และตน ไม่คิดว่า จะเป็นการก่อเหตุเพื่อดิสเครดิต คสช.ที่จะครบ 3 ปี อีกทั้งไม่ใช่ก่อเหตุเพื่อกลบ กระแสโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ และผลประโยชน์สำนักงานสลากฯ ในส่วนของทหาร หรือ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ กกล.รส.มีกองอำนวยการร่วมอยู่แล้ว ซึ่งตนสั่งการ ให้ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้พิจารณาทบทวน ถ้ามีความจำเป็นให้นำ กองกำลัง กกล.รส.ในพื้นที่อื่นเข้าไปเพิ่มเติม โดยประสานกับตำรวจ ขณะนี้ตำรวจได้จัด สายตรวจเพิ่มเติม ทั้งในและนอกเครื่องแบบตามห้วงเวลาที่เหมาะสม โดยนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร ให้ตำรวจเร่งรัดรูปคดี เพื่อให้สามารถคลี่คลายปัญหานี้ได้โดยเร็ว ในส่วนของประชาชน หากพบอะไรที่จะเป็นสิ่งบอกเหตุ ที่จะก่อให้เกิดอันตราย หรือมีผู้ไม่ ประสงค์ดี ก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ และที่สำคัญที่ได้เร่งรัดไป ก็คือ การติดกล้องวงจรปิดที่มี คุณภาพในพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวังเพิ่มมากขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพไม่ชัดเจน ไม่สามารถจะใช้ประโยชน์จากกล้องวงจรปิดได้มากนัก . พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ พบว่า ตัวจุดระเบิดต่างๆ เป็นของเก่าพอสมควรที่เก็บไว้นาน ไม่ใช่ที่นำมาประกอบขึ้นใหม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการ ซุกเก็บไว้ เมื่อมีจังหวะและโอกาส และมีแรงจูงใจอื่นๆ เข้ามาก็ออกมาสร้างสถานการณ์ อีกทั้ง ชิ้นส่วนต่างๆ ของระเบิดที่พบ ไม่ได้เชื่อมโยงกับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้ว่ารูปแบบ และวิธีการอาจจะคล้ายกัน แต่สามารถลอกเลียนได้จากอินเตอร์เน็ต สำหรับการหาตัวผู้ก่อเหตุ ต้องอาศัยเรื่องงานด้านการข่าว และกล้องวงจรปิด ถ้าได้ทั้งคู่ ก็จะสามารถตามหาตัวได้