สถานการณ์ในประเทศ

ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโร ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อขอให้ ตรวจสอบโครงการจัดหาเรือดำน้ำว่า มีการใช้เงินแผ่นดินเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหรือไม่ โดยมีนางชลาลัย สุขสถิตย์ ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน 1 เป็นผู้รับเรื่อง . นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวว่า ขอให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ตรวจสอบเพิ่มเติมคือ การจัดซื้อด้วยวิธีรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจีจริง หรือไม่ เพราะบริษัท ไชน่า ชิปบิวดิ้ง แอนด์ ออฟชอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งทำสัญญากับกองทัพเรือ ในกรณีนี้ เคยเป็นคู่สัญญากับรัฐบาลไทยมาก่อนในลักษณะข้อตกลงระหว่างกองทัพบก กับบริษัทผู้ขายโดยตรง ไม่ใช่กับรัฐบาล . นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลโครงการดังกล่าว เกี่ยวกับตัวเลขการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณวงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท แตกต่าง จากโครงการอื่น เช่น โครงการจัดหาสะพานยุทธวิธีสนับสนุนหน่วยทหารช่าง วงเงิน 577.50 ล้านบาท ที่มีการเปิดเผยข้อมูลผ่านเวปไซด์ของรัฐบาลที่ www.cabinet.soc.go.th อย่างไม่ปิดบัง แต่โครงการจัดหาเรือดำน้ำ กลับไม่มีการเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบ อย่างที่เคยปฏิบัติมา อีกทั้ง ยังเห็นว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวของคณะรัฐมนตรี เป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่เป็นไปตามวินัยการเงินการคลังที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย . ด้านนางชลาลัย สุขสถิตย์ ยืนยันว่า สตง.ได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และจะนำข้อมูล ของนายเรืองไกร ไปประกอบการตรวจสอบด้วย ซึ่งวันนี้ (15 พ.ค.60) ผู้ตรวจสอบโครงการนี้ จะสรุปผลตรวจสอบในเรื่องงบประมาณ และการจัดซื้อจัดจ้างให้นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รับทราบ และพิจารณาว่าจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างไรหรือไม่ โดยจะแถลงผลอย่างเป็นทางการต่อสาธารณะในเร็ว ๆ นี้