สถานการณ์ในประเทศ

พันตำรวจเอก ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจาก นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบอำนาจให้ผู้แทน เข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่นำภาพผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ขึ้นเป็นรูปโปรไฟล์ในเฟสบุ๊ก เพราะ เกรงจะถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง หรือหาผลประโยชน์ส่วนตัว จากการตรวจสอบ เฟสบุ๊กที่นำภาพผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ไปใช้เป็นรูปโปรไฟล์นั้น ยังไม่ปรากฏข้อมูลของผู้ที่ทำ แต่ผู้ที่ทำเฟซบุ๊กนี้ได้เริ่มส่งคำร้องของเป็นเพื่อนไปยังคนรู้จักของผู้ว่าฯ เชียงใหม่หลายราย ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่จะรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 วรรค 1 ซึ่งในส่วนนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการ ตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน . พันตำรวจเอก ปิยะพันธ์ กล่าวต่อว่า ช่วงนี้มีการปลอมแปลงเฟสบุ๊กหลายราย จึงขอ ประชาสัมพันธ์ผู้ที่ได้รับเป็นเพื่อนกับผู้ที่ปลอมแปลงเฟสบุ๊กนั้น โดยรายงานเข้าไปยัง เฟสบุ๊ก เพื่อให้เฟสบุ๊กประเทศไทย ดำเนินการบล็อกเฟสบุ๊กดังกล่าว ในกรณีที่มีการ ขอยืมเงินผ่านทางเฟสบุ๊ก ให้โทรติดต่อกับเจ้าของเฟสบุ๊กก่อน เพื่อความมั่นใจ และ ให้ตรวจสอบชื่อบัญชีที่จะโอนเงินให้ดีทุกครั้งว่า เป็นชื่อของบุคคลที่มาขอยืมเงินหรือไม่ ก่อนจะโอนเงินให้ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ . ด้าน พันตำรวจเอก อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับ ผู้ที่รับเป็นเพื่อนกับเฟสบุ๊กที่เข้าข่ายหลอกลวง หากเกิดความเสียหายจากการขอยืมเงิน หรือ ขอรับบริจาค ให้ผู้ที่เสียหายช่วยแคปเจอร์หน้าจอไว้ พร้อมทั้งส่งข้อมูลเข้าไลน์ 191 เชียงใหม่ และเข้าแจ้งความกับตำรวจในทันที เพื่อจะได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานดำเนินการ เอาผิดในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อไป