นานา ไรบีนา ถึงสอบสวนกลาง ผู้เสียหาย 17 ราย สูญ 190 ล้าน
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
กทม.ชวนคนกรุง Work From Home รับมือวิกฤตฝุ่นพิษพุ่งแตะระดับสีส้ม 35 เขต 3 ธ.ค. 68 11:12 น.
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
21 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับ การดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะเกษตรกร เพื่อให้สามารถพัฒนาอาชีพ และยกระดับรายได้ ของตนเองอย่างมั่นคง โดยจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรขึ้น อำเภอ ละ 1 แห่ง รวม 882 แห่ง ตั้งแต่ปี 2557 บูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนนำงานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้าไปถ่ายทอดให้แก่เกษตรกร ทั้งเทคโนโลยีการผลิต การแปรรูป การตลาด เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าแก่ผลผลิต ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่า การทำให้เกษตรกร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง เพื่อให้ไทยก้าวพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีความรู้ และนำเทคโนโลยีไปพัฒนาการผลิต เปลี่ยนจากเกษตรกรแบบ ดั้งเดิมให้เป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ . พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ฯ ได้คัดเลือกจากพื้นที่ที่ผ่านการ วิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่ คน สินค้า และศักยภาพการผลิต (Zoning) และกำหนดประเด็นที่จะ ส่งเสริมให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ โดยมีองค์ประกอบ คือ 1.เกษตรกรต้นแบบ 2.แปลงเรียนรู้ 3.หลักสูตร และ4. ฐานการเรียนรู้ ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละศูนย์ฯ จะบริหารจัดการโดยเกษตรกร ต้นแบบที่ประสบความสำเร็จเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา และชุมชน จัดทำหลักสูตรและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยให้เกษตรกรได้เรียนรู้จากการ ปฏิบัติจริงในแปลงเรียนรู้ เช่น การปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ สร้างรายได้ 900,000 บาทต่อปี ที่ จ.มหาสารคาม การผลิตกาแฟขี้ชะมด จ.กระบี่ สร้างรายได้ กิโลกรัมละ20,000 บาท เป็นต้น