สถานการณ์ในประเทศ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า จะครบ 3 ปีหลังปฏิวัติแล้ว แต่ผลงานของ คสช.กลับไม่มีสิ่งที่จับต้องได้ ส่วนข้ออ้างที่เข้ามาแก้ปัญหาการทุจริต กลับมี ข้อครหาการทุจริตเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีปัญหาการปิดกั้นเสรีภาพและการแสดงออกของประชาชน แม้กระทั่งความพยายามจะควบคุมสื่อและการรับรู้ของประชาชน ปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ เยาวชนหัวก้าวหน้าถูกตำหนิและห้ามพูด บางคนถูกจับ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตา ประชาคมโลกตกต่ำ . นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ระบุต่อว่า ความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่ประชาชน สัมผัสได้มากที่สุด และอยู่ในอันดับแย่สุดในการสำรวจทุกครั้ง ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะฐานราก ที่รายได้หดหายแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลยังพยายามจะขึ้นภาษีสารพัด เพราะหัวหน้า คสช. และหัวหน้ารัฐบาล ไม่เข้าใจเศรษฐกิจ ขาดวิสัยทัศน์ ประชาชนลำบากกัน ถ้วนหน้า แต่นายกรัฐมนตรีท่องอย่างเดียวว่า เศรษฐกิจดี จากตัวเลขการเจริญเติบโตที่ต่ำที่สุด ในอาเซียน ขณะที่การลงทุนในไตรมาสแรกของปีนี้ เหลือเพียง 80,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำมาก ทั้งที่รัฐบาลพยายามโปรโมทระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรือ อีอีซี แต่กลับไม่มีใครมาลงทุน การที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ออกมาบอกว่า 3 ปี คสช มีการลงทุน 1.7 ล้านล้านบาท เฉลี่ยปีละ 5 แสนกว่าล้านบาท ยิ่งประจานความล้มเหลว จากภาวะปกติ 1 ปี ลงทุนกว่าล้านล้านบาท ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าเศรษฐกิจจะฟื้น หากรัฐบาลยังพยายามจะ หลอกคนทั้งประเทศและหลอกตัวเอง ประเทศไทยจะยิ่งล้าหลัง ประชาชนจะยิ่งลำบาก จึงอยากให้รัฐบาลเร่งเปลี่ยนแปลงและคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว ก่อนที่ประชาชนจะ หมดความอดทน