นานา ไรบีนา ถึงสอบสวนกลาง ผู้เสียหาย 17 ราย สูญ 190 ล้าน
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
กทม.ชวนคนกรุง Work From Home รับมือวิกฤตฝุ่นพิษพุ่งแตะระดับสีส้ม 35 เขต 3 ธ.ค. 68 11:12 น.
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
21 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคความ- ดันโลหิตสูงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มีผู้ที่รู้ว่าตนเองป่วยทั่วโลก เพียงร้อยละ 50 โดยภาวะความดันโลหิตสูง จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองสี่เท่า และความ เสี่ยงเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายสองเท่า . ทั้งนี้ ประเทศไทยมีปริมาณผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น จากประชากรอายุ 15 ปี ขึ้นไป เก็บข้อมูลเมื่อปี 2557 พบความชุกของโรค ประมาณร้อยละ 25 เป็นผู้ป่วย ความดันโลหิตสูงประมาณ 13 ล้านคน ซึ่งมีเพียงร้อยละ 44 เท่านั้นที่ทราบว่าตนเองป่วย ทำให้ผู้ป่วยไม่ได้เข้ารับการรักษา และปล่อยให้ความดันโลหิตสูงนานหลายปี ซึ่งเพิ่ม ความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคไต ที่เป็นสาเหตุหลักของ การเสียชีวิตอันดับต้นๆ . นายแพทย์เจษฎา กล่าวต่อว่า โรคความดันโลหิตสูงไม่มีสัญญาณเตือน หรืออาการ ชัดเจนในช่วงแรก จะแสดงอาการในระยะหลัง ซึ่งผู้ป่วยจะรู้สึกปวดศีรษะ ง่วงนอน ใจสั่น ตาพร่ามัว อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หายใจลำบาก และ หัวใจเต้นผิดปกติ นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ดังนั้น อยากให้ประชาชนตระหนักถึงการป้องกัน ควบคุม และลดความรุนแรงของโรค โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ดังนี้ . 1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน มัน และ เค็มจัด 2.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เฉลี่ย 150 นาทีต่อสัปดาห์ 3.งดสูบบุหรี่และ งดดื่มสุรา 4. เข้ารับการตรวจวัดระดับความดันโลหิตเป็นประจำ อย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง และ 5.ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ ( ภาพประกอบข่าว)