สถานการณ์ต่างประเทศ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใหัสัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์ก นิวส์ ที่ห้องทำงานรูปไข่ ภายใน ทำเนียบขาวว่า เขาหวังว่าจะได้พบกับนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ภายใต้สถานการณ์ และเงื่อนไขที่เหมาะสม และยังถือเป็นเกียรติอีกด้วย ซึ่งจะมี breaking news กันเลยทีเดียว หลังเกิดความตึงเครียดระดับสูง อันเนื่องมาจากโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ . ขณะที่ นายอีแวนส์ รีเวียร์ อดีตนักการทูตสหรัฐฯในเกาหลีใต้ ให้ความเห็นว่า แทบเป็นไป ไม่ได้เลยที่จะนึกภาพเกาหลีเหนือยอมรับเงื่อนไขที่จะทำให้การประชุมที่ว่านี้เกิดขึ้นได้ . ด้าน นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับคำให้สัมภาษณ์ ของทรัมป์ว่า จะต้องเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่ชัดเจนและไม่ใช่ตอนนี้ เราต้องเห็นพฤติกรรม ที่ยั่วยุของเกาหลีเหนือลดลงก่อน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรี ต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งจะกล่าวที่สหประชาชาติว่า สหรัฐฯจะเจรจากับเกาหลีเหนือ ถ้าเกาหลีเหนือแสดงให้เห็นความคืบหน้าที่เชื่อถือได้ว่า ยอมละทิ้งโครงการนิวเคลียร์ และขีปนาวุธแล้ว . เกาหลีเหนือได้กลายเป็นนโยบายต่างประเทศและภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติที่เร่งด่วน ที่สุด ที่ทรัมป์เผชิญในช่วง 100 วันแรกของการเข้ารับตำแหน่ง เนื่องจากยังมีการพัฒนา โครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่แยแสเสียงประณามและ มาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ ซึ่งนักวิเคราะห์ทางทหารต่างลงความเห็นว่า เกาหลีเหนือ กำลังพัฒนาขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ที่สามารถยิงไปถึงแผ่นดินสหรัฐฯ ได้ภายในปี 2563 ซึ่งยังอยู่ในวาระการดำรงตำแหน่งของทรัมป์