นานา ไรบีนา ถึงสอบสวนกลาง ผู้เสียหาย 17 ราย สูญ 190 ล้าน
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
กทม.ชวนคนกรุง Work From Home รับมือวิกฤตฝุ่นพิษพุ่งแตะระดับสีส้ม 35 เขต 3 ธ.ค. 68 11:12 น.
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
21 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ออกแถลงการณ์เรื่อง "ขอให้สปท.ถอนร่างพระราชบัญญัติคุ้มครอง สิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ออกจากระเบียบวาระ การประชุม" . ด้วยในการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และ มาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ....ตามที่คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสื่อสารมวลชนเสนอ ซึ่งได้ถูกคัดค้านจากองค์กรวิชาชีพสื่อ และนักข่าวภาคสนาม มาตามลำดับนั้น . คณะผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาได้ทำหน้าที่ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของ สปท., คณะกรรมการ ร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เพื่อรายงานข่าวสารให้ ประชาชนรับทราบ โดยเฉพาะสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยมีความเห็นว่า การที่ สปท.เตรียมผลักดันร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เพื่อให้มีการบังคับใช้เป็นกฎหมาย ในอนาคต จะส่งผลให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อ รวมไปถึงบุคคลที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการสื่อสาร และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ต้องตกอยู่ในสภาวะที่ถูกกำกับควบคุม จนมิอาจใช้สิทธิเสรีภาพ ของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ ตามรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติที่ให้สิทธิ์เอาไว้ . ทั้งนี้ โดยหลักแล้ว การผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการสื่อสารมวลชนควรเป็นไปในลักษณะ มุ่งคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ อีกทั้งสร้างกลไกที่ธำรงความเป็นอิสระของสื่อมวลชนอย่างแท้จริง บนพื้นฐานของประโยชน์ส่วนรวม เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้าน รวมไปถึงการส่งเสริมการใช้เสรีภาพบนพื้นฐานความรับผิดชอบ . ด้วยเหตุผลเหล่านี้ การที่ให้ภาครัฐมีส่วนเข้ามาเป็นผู้ให้คุณหรือให้โทษแก่ผู้ปฎิบัติหน้าที่ สื่อมวลชนและบุคคลที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงไม่อาจ เป็นร่างกฎหมายที่ยอมรับได้ . คณะผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา จึงมีความเห็นว่า สปท.ควรถอนร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ออกไปก่อน เพื่อทบทวนเนื้อหาและหลักการสำคัญด้วยการรับฟังความคิดเห็นให้รอบด้าน โดยนอกจากจะรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนแล้ว ควรรับฟัง ความคิดเห็นจากสื่อมวลชนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคสนามด้วยเพื่อเป็นการสะท้อน มุมมองและข้อเท็จอีกด้านหนึ่งต่อไป