สถานการณ์ในประเทศ

ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย จับกุมนายนิธินนทน์ ศรีธานิยานันท์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพ พร้อมของกลางถังไนโตรเจน 1 ถัง ภายในบรรจุหลอดใส่อสุจิ 6 หลอด เป็นอสุจิ ของชาวจีน และชาวเวียดนาม โดยจับกุมได้ขณะเดินทางออกนอกประเทศ ณ ด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทย – ลาว จ.หนองคาย เมื่อวานนี้ ( 20 เม.ย.) นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้ยื่นความจำนง ขอระงับคดีในชั้นศุลกากร งดการฟ้องร้อง ซึ่งหลังจากดูข้อกฎหมายแล้ว ก็เห็นว่า การระงับคดีจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด โดยปรับเป็นเงิน 2 แสนบาท ยกเว้นโทษจำคุก ไม่ต้องส่งอัยการ หรือศาลให้พิจารณาลงโทษ เนื่องจากทางสาธารณสุขก็พร้อมที่จะ ดำเนินการต่อ ในการขยายผลไม่ให้มีขบวนการค้ามนุษย์ ค้าอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน โดยจะทำงานร่วมกัน ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข จะขยายผลในส่วนกลางต่อไป เบื้องต้นตรวจสอบด้านกฎหมายของลาว ยังไม่มีกฎหมายห้ามในการดำเนินการ ดังกล่าว แต่ในด้าน พ.ร.บ.ศุลกากร ไทยกับลาวใช้กฎหมายเหมือนกันในการนำเข้า ส่งออกสินค้าทุกชนิด ซึ่งการลักลอบนำออกประเทศนี้ ถือว่าผิดกฎหมาย ด้าน นายพิชิต ลีลาศ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ เจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยาประจำ สะพานมิตรภาพไทย –ลาว กล่าวว่า จะนำของกลางพร้อมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ส่งให้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ไปดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อ ขยายผล ทั้งกับเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบวิชาชีพ รวมไปถึงสถานประกอบการว่าได้ขออนุญาต ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบคลินิกแห่งหนึ่งในกรุงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นคลินิก ที่นายนิธินนทน์ นำถังบรรจุอสุจิมาส่ง เพื่อทำการอุ้มบุญ พบว่าเป็นอาคาร 2 ชั้น 2 คูหา ตั้งอยู่ถนนเต้ 4 บ้านดอนกลอย ติดป้ายด้านหน้าข้อความภาษาลาวว่า “ศูนย์การแพทย์ ปิ่นปัวภาวะมีลูกยาก” หรือ ศูนย์การแพทย์รักษาภาวะมีลูกยาก โดยยังเปิดบริการตามปกติ .