สถานการณ์ในประเทศ

ที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ นักกิจกรรมการเมืองและ นักอนุรักษ์ธรรมชาติ นำประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับกรณีหมุดคณะราษฎรสูญหายไปจาก ตำแหน่งเดิม เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามคนร้าย มาดำเนินคดี ฐานการกระทำผิดเบียดบังเอาโบราณวัตุเป็นของตน . ระบุว่า หมุดคณะราษฎร ถือเป็นโบราณวัตถุ ตามมาตรา 4 พ.ร.บ.โบราณสถาน ผู้ที่ขโมยไป จึงมีความผิดตามมาตรา 31 ซึ่งผู้ใดเก็บได้ซึ่งวัตถุ หรือศิลปะวัตถุที่ซ่อน หรือฝัง หรือทอดทิ้งโดยพฤติการณ์ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่า เป็นเจ้าของได้และ เบียดบังเอาโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุมาเป็นของตนหรือผู้อื่น ต้องระวังโทษจำคุก ไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกิน 700,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งกระทำผิด ฐานลักทรัพย์ ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพราะหมุดของคณะราษฎร เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของการอภิวัฒน์สยามเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 . โดยความผิดทั้ง 2 ข้อหา เป็นอาญาแผ่นดิน และเป็นเรื่องที่กระทบกับเพื่อนจิตใจและ ได้รับความสนใจจากประชาชนวงกว้าง ตนเองจึงเข้ามาแจ้งความกล่าวโทษ เพื่อให้ พนักงานสอบสวน ดำเนินการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีโดยด่วน และให้นำเอาของปลอมมารักษาไว้ เพื่อเป็นของกลางประกอบการดำเนินคดี . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศโดยรอบพื้นที่พระลานพระราชวังดุสิต มีตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบ สลับสับเปลี่ยนกำลัง คอยเฝ้าดูแลความสงบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ ไม่อนุญาตให้ประชาชน เข้าไปถ่ายรูป หรือเซลฟี่ ร่วมกับหมุดใหม่ โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ เขตพระราชฐาน และไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนรั้วที่ได้นำมาล้อมหมุดไว้ เมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่นำเอาออกไปแล้วตั้งแต่เช้ามืด เพื่อเปิดทางให้รถยนต์สัญจรไปมาได้ และจะนำรั้วมาปิดกั้นอีกครั้งในช่วงเวลากลางคืน