นานา ไรบีนา ถึงสอบสวนกลาง ผู้เสียหาย 17 ราย สูญ 190 ล้าน
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
กทม.ชวนคนกรุง Work From Home รับมือวิกฤตฝุ่นพิษพุ่งแตะระดับสีส้ม 35 เขต 3 ธ.ค. 68 11:12 น.
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
21 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการฝ่าย คดีอาญา 3เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ อายุ 74 ปี ผู้กว้างขวางใน จ.กาญจนบุรี และอดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดิน หรือก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำ ด้วยประการใดๆ เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ในที่ดินซึ่งเป็นสาธารณ สมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเนื้อที่เกินกว่า50 ไร่ โดยไม่ได้รับ- อนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 9 และ มาตรา 108 กรณีเมื่อต้นปี 2533 - 25 มีนาคม2547จำเลยได้เข้าไปยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง เผาป่าปลูกพืชไร่ ให้บุคคลอื่นเช่าและใช้ประโยชน์ในที่ดิน เนื้อที่ 299 ไร่ 52 งานในที่ดินราชพัสดุหมู่12 ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ยจ.กาญจนบุรี และที่ดิน เนื้อที่ 900 ไร่ 2 ตารางวา 32 งานในที่ดินราชพัสดุหมู่8 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องติดต่อกันทั้งหมด รวมเนื้อที่ทั้งหมด 1,199 ไร่ 2 ตารางวา 84 งาน โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 12 มกราคม2555 . เมื่อถึงเวลานัดปรากฎว่า นายประชา หรือกำนันเซี๊ยะ จำเลย ไม่ได้เดินทางมาศาลอีก หลังจากเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลอาญาได้ออกหมายจับกำนันเซี๊ยะไปแล้ว ที่ไม่มาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาฎีกาในครั้งแรก ดังนั้นวันนี้ศาลอาญา จึงอ่านคำพิพากษา ลับหลังจำเลยทันที เนื่องจากไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุใดซึ่งมีพฤติการณ์เชื่อว่าจะ หลบหนี ซึ่งกำนันเซี๊ยะ มีพฤติการณ์ไม่มาฟังคำพิพากษาคดีตั้งแต่ชั้นอ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 25 มกราคม2559 โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม2557 ให้จำคุกกำนันเซี๊ยะเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ฐานกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 911 และมาตรา 108 ทวิ วรรคหนึ่ง เข้าไปครอบ- ครองที่ดินของรัฐ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุ และเป็นที่ดินเพื่อสาธารณประโยชน์ . ขณะที่ชั้นศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้เป็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ทวิ (1) (3) ให้จำคุก 3 ปี ซึ่งกำนันเซี๊ยะ จำเลย ได้ยื่นฎีกาดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย แต่เนื่องจากทาง นำสืบของจำเลยรับว่าได้เข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินดังกล่าว กรณีนี้จึงเป็นประโยชน์ แก่การพิจารณาของศาล มีเหตุควรลดโทษให้ จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 2 ปี 8 เดือน